สืบเนื่องจากตำรวจไซเบอร์ ได้รับเบาะแสร้องเรียนจากประชาชน กรณีมีผู้โพสต์ขายวิดีโอคลิปลามกอนาจารออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน X หรือ Twitter ซึ่งบัญชีโซเชียลดังกล่าวมีผู้ติดตามกว่า 3 แสนคน จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
ต่อมา พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2
ส่งเจ้าหน้าที่ออกสืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าว พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ ผกก.4 บก.สอท.2 จึงนำกำลังชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูลกรณีดังกล่าว
จากการสืบสวน ทำให้ทราบว่า บัญชี X ดังกล่าวชื่อ “เรียกหนูว่าเพทาย (ทวิตจริง)” ซึ่งมีจำนวนผู้ติดตามกว่า 3 แสนราย โดยตั้งค่าบัญชีเป็นสาธารณะ ทำให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้โดยไม่ต้องกดขอเพิ่มเพื่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าบัญชีดังกล่าว ได้โพสต์วิดีโอคลิปในลักษณะลามกอนาจารหลายคลิป โดยมักเป็นคลิปที่เจ้าของบัญชีเองมีเพศสัมพันธ์กับแฟนหนุ่ม เป็นวิดีโอสั้นๆ ประมาณไม่เกิน 1 นาที เพื่อสร้างความดึงดูดให้ผู้ที่สนใจ ต้องโอนเงินเพื่อดูคลิปฉบับเต็ม
หากลูกค้าโอนเงินแล้ว จะได้เข้ากลุ่มแอปพลิเคชันไลน์ ชื่อ “เรียกหนูว่าเพทาย” ซึ่งเป็นกลุ่มส่วนตัว ต้องผ่านการอนุมัติจากเจ้าของบัญชี จึงจะสามารถเข้ากลุ่มได้ โดยชุดสืบสวนพบว่า ภายในกลุ่มดังกล่าวมีสมาชิกจำนวนมาก และมีการโพสต์คลิปวีดิโอลามกอนาจารอีกจำนวนมาก
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องได้ 2 ราย กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สอท.2 ได้นำกำลังเข้าจับกุมตัว น.ส.ชัชฎาภา อายุ 21 ปี และ นายคมจักร อายุ 23 ปี ตามหมายจับ ศาลจังหวัดนนทบุรีที่ จ.700/67 ลงวันที่ 5 ส.ค.67 และศาลจังหวัดนนทบุรีที่ จ.701/67 ลงวันที่ 5 ส.ค. 2567 โดยควบคุมตัวได้ที่ห้องพัก ชั้น 24 ของคอนโดแห่งหนึ่งย่านเพชรเกษม ถนนเพชรเกษม แขวงบางแค เขตบางแค กทม.
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “เพื่อความประสงค์แห่งการค้าหรือโดยการค้า เพื่อการจ่ายแจก แก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้า หรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออก หรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไป หรือยังให้พาไป หรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งเอกสารฯ ลามก และ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ โดยการเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามก”
จากการสอบถาม เบื้องต้นผู้ต้องหารับว่าเคยทำคลิปลักษณะดังกล่าวมาแล้วประมาณ 4 เดือน สามารถสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาทต่อเดือน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป