“….ซีพีเอฟ ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงยืนยันว่า บริษัทได้ตั้งคณะทำงานเพื่อสอบข้อเท็จจริง ตั้งแต่เริ่มการริเริ่มแนวคิดการศึกษาตั้งแต่ปี 2549 จนกระทั่งยุติความคิดที่จะทำการวิจัยเรื่องนี้เมื่อต้นปี 2554 ยืนยันว่า ไม่ใช่ต้นเหตุของการระบาดปลาหมอคางดำ อย่างไรก็ตาม CPF พร้อมเข้าสู่กระบวนการเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง ตามที่ถูกกล่าวหาและเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมที่ก่อให้เกิดการพิสูจน์ข้อเท็จจริงอย่างถูกต้อง ตามกระบวนการทางกฎหมายและนำไปสู่ความเข้าใจที่ถูกต้องของสังคมได้ในที่สุด เห็นแถลงการณ์ของCPF แล้วก็ให้นึกย้อนไปถึงแถลงการณ์ของบริษัทซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด(มหาชน) หรือ “แมคโคร”ที่เคยออกโรงชี้แจงกรณีปรากฏข่าวว่า บริษัทมีส่วนพัวพันกับการนำหมูเถื่อน เข้าไปวางขายบนห้าง จนถูก “ดีเอสไอ”บุกเข้าตรวจค้น โดยบริษัทได้ออกแถลงการณ์ในลักษษณะเดียวกันว่า บริษัทขอยืนยันถึงจุดยืนที่ชัดเจนในการไม่สนับสนุนและประณามการซื้อ-ขายสินค้าที่ผิดกฎหมาย …”
ซีพีเอฟฉาย “หนังม้วนเก่า”
ปัดต้นตอแพร่ระบาดปลาหมอคางดำ
ร่อนเอกสารแจงตำราเดียวกับหมูเถื่อนบนห้างแมครโคร
CPF ร่อนแถลงการณ์โต้กลุ่มประมงแม่กลอง ที่รุกคืบฟ้องศาลปกครองให้บริษัทชดเชยความเสียหาย ปัดเป็นต้นตอแพร่ระบาดปลาหมอคางดำ ยันพร้อมพิสูจน์ในวกระบวนการยุติธรรม
จากกรณีที่กลุ่มประชาชนจังหวัดสมุทรสงคราม (กลุ่มประมงเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ-กลุ่มประมงพื้นบ้าน) และสภาทนายความ เป็นโจทก์ร่วมกันฟ้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ว่าเป็นตัวการปล่อยให้ปลาหมอคางดำ ออกมาทำลายสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศวิทยานั้น
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ซีพีเอฟ ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงยืนยันว่า บริษัทได้ตั้งคณะทำงานเพื่อสอบข้อเท็จจริง ตั้งแต่เริ่มการริเริ่มแนวคิดการศึกษาตั้งแต่ปี 2549 จนกระทั่งยุติความคิดที่จะทำการวิจัยเรื่องนี้เมื่อต้นปี 2554 ยืนยันว่า ไม่ใช่ต้นเหตุของการระบาดปลาหมอคางดำ
อย่างไรก็ตาม CPF พร้อมเข้าสู่กระบวนการเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง ตามที่ถูกกล่าวหาและเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมที่ก่อให้เกิดการพิสูจน์ข้อเท็จจริงอย่างถูกต้อง ตามกระบวนการทางกฎหมายและนำไปสู่ความเข้าใจที่ถูกต้องของสังคมได้ในที่สุด
แม้บริษัทจะมั่นใจว่าไม่ใช่สาเหตุของการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำ แต่ก็รับทราบดีว่าปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาสำคัญ ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทได้เข้ามาช่วยสนับสนุนการแก้ไขอย่างบูรณาการกับทุกภาคส่วน พร้อมทั้งลงมือปฏิบัติการเชิงรุกหลายมิติตามแนวทางของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยมีการดำเนินงานเชิงรุก 5 โครงการประกอบด้วย
1)สนับสนุนการรับซื้อปลาหมอคางดำจำนวน 2,000,000 กิโลกรัม นำมาผลิตเป็นปลาป่นเพื่อเร่งกำจัดปลาหมอคางดำออกจากระบบให้มากและเร็วที่สุด โดยช่วงเวลาที่ผ่านมา รับซื้อไปแล้วกว่า 1,100,000 กก.และยังคงรับซื้อต่อเนื่อง
2)สนับสนุนภาครัฐและชุมชนปล่อยปลาผู้ล่าจำนวน 200,000 ตัวโดยที่ผ่านมา บริษัทมีการส่งมอบปลากะพงขาว จำนวน 70,000 ตัว ให้กับหน่วยงานภาครัฐและชุมชนในหลายจังหวัด
3)สนับสนุนภาครัฐ ชุมชนและภาคประชาสังคม จัดกิจกรรมจับปลา สนับสนุนอุปกรณ์จับปลาและกำลังคน ในทุกพื้นที่ ที่ประสบปัญหาอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาสนับสนุนกิจกรรมไปแล้ว 30 ครั้งใน 14 จังหวัด จับปลาหมอคางดำได้มากกว่า 25,000 กิโล
4)การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารจากปลาหมอคางดำ โดยร่วมกับสถาบันการศึกษา
5)ร่วมทำวิจัยกับผู้เชี่ยวชาญในการหาแนวทางควบคุมประชากรปลาหมอคางดำเพื่อพัฒนาแนวทางที่จะบรรเทาปัญหาในระยะยาว ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ สถาบันการศึกษาทั้งใน และต่างประเทศ
ขณะที่แวดวงปศุสัตว์ต่างระบุตรงกันว่า เห็นแถลงการณ์ของ CPF แล้วก็ให้นึกย้อนไปถึงแถลงการณ์ของบริษัทซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด(มหาชน) หรือ “แมคโคร”ที่เคยออกโรงชี้แจงกรณีปรากฏข่าวว่า บริษัทมีส่วนพัวพันกับการนำหมูเถื่อน เข้าไปวางขายบนห้าง จนถูก “ดีเอสไอ”บุกเข้าตรวจค้น โดยบริษัทได้ออกแถลงการณ์ในลักษษณะเดียวกันว่า บริษัทขอยืนยันถึงจุดยืนที่ชัดเจนในการไม่สนับสนุนและประณามการซื้อ-ขายสินค้าที่ผิดกฎหมาย
กรณีข่าวที่ปรากฏในสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับการที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ขอเข้าตรวจสอบเอกสารการซื้อ-ขาย บริษัทฯ ยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐในการตรวจสอบด้วยความโปร่งใส ทั้งที่สำนักงานใหญ่และคลังสินค้าทุกแห่ง มิได้เป็นการเข้าจับกุม ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในบางสื่อแต่อย่างใด
บริษัทฯ ขอยืนยันว่า การรับซื้อสินค้ามีกระบวนการที่รัดกุม โดยการตรวจสอบเอกสารจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคู่ค้าต้องนำมาแสดงเมื่อนำส่งสินค้าทุกครั้ง จึงมั่นใจได้ว่าเป็นการรับซื้อโดยเปิดเผย ถูกต้องตามกฎหมายและไม่มีความเกี่ยวข้องกับสินค้าเถื่อนแต่อย่างใด นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีขั้นตอนการคัดเลือกและประเมินคู่ค้า การตรวจสอบคุณภาพก่อนการรับสินค้า รวมถึงการมีมาตรการในการหยุดรับซื้อและยกเลิกสัญญาหากพบว่าสินค้าไม่ได้คุณภาพ
ที่สำคัญ บริษัทฯ ยึดมั่นในการสนับสนุนเกษตรกรไทย และให้ความสำคัญกับการรับซื้อสินค้าที่ผลิตจากเกษตรกรในประเทศ ดังจะเห็นได้จากปริมาณสินค้ากลุ่มเครื่องในสุกรแช่แข็งนำเข้า เป็นสัดส่วนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อเทียบกับปริมาณสินค้ากลุ่มเนื้อสุกรและเครื่องในสุกรโดยรวมที่บริษัทมีการจัดจำหน่าย
“เรายึดมั่นในการดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาล และยินดีให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการตรวจสอบอย่างเต็มที่”
อย่างไรก็ตามแถลงการณ์ของบริษัทข้างต้นนั้นย้อนแย้งกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะกรณีที่ปล่อยให้มีการนำหมูเถื่อนและตับขึ้นไปวางบนห้างฯ โดยบริษัทอ้างว่ายึดถือเอกสารหลักฐานที่ผู้นำเข้าเอามาแสดง ก่อนมาตรวจพบและมายกเลิกในภายหลัง จนยกเลิกคำสั่งซื้อเหล่านี้ทั้งหมด หลังพบว่าไม่ได้คุณภาพตามที่กำหนด สำหรับกรณีการตรวจสอบเอกสารซื้อขายและนำเข้าหมูเถื่อนของดีเอสไอก่อนหน้านี้ ท้ายที่สุดเรื่องได้เงียบหายเข้ากลีบเมฆจนกระทั่งวันนี้