เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 ก.ย.67 ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายกฤษฎา อินทามระ ฉายา“ทนายปราบโกง” พร้อมด้วยอดีตพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทยกว่า 100 คน
อดีตพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย ประมาณ 100 คน เดินทางมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ พิจารณาตรวจสอบสำนวน คดีที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย ยื่นเรื่องให้รับเป็นคดีพิเศษ กรณีพบหลักฐานที่เชื่อว่าพนักงานของการท่าเรือฯ 560 คน ทุจริตเบิกค่าล่วงเวลา ตั้งแต่ปี 2545 – 2555 มูลค่า 3,000 ล้านบาท
แต่เมื่อปี 2566 ดีเอสไอกลับสั่งฟ้องผู้ถูกกล่าวหาได้เพียง 34 คนเท่านั้น จากทั้งหมด 560 คน และ การท่าเรือได้ทำหนังสือถึงอัยการสูงสุดขอยุติคดีพิเศษแล้ว จึงเท่ากับว่าพนักงานทั้ง 560 คน เป็นผู้บริสุทธิ์
จึงรวมตัวเดินทางเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ เพื่อขอให้ตรวจสอบว่าอดีตพนักงาน นอกเหนือ 34 คนที่ถูกกล่าวหานั้น มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการทุจริตเบิกค่าล่วงเวลาหรือไม่ เนื่องจากการพิจารณาคดีใช้ระยะเวลานานเกินไป ส่งผลให้อดีตเจ้าหน้าที่การท่าเรือ ที่ถูกกล่าวหา ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง กระทบต่อการดำเนินชีวิต บางคนไม่สามารถหางานทำได้ เพราะถูกสังคมมองว่ามีพฤติกรรมทุจริต และแต่ละคนมีอายุมากกว่า 60 ปีแล้ว จึงอยากให้เร่งรัดในการตรวจสอบ
ภายหลังการเข้าร้องเรียน นายกฤษฎา ได้เปิดเผยว่า พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงมาพูดคุยกับตน ทางโฆษกแจ้งให้ยื่นคำร้องไปตามขบวนการตรวจสอบสำนวน ตนจึงยื่นไป 2 เรื่อง คือ
1.สำหรับการแจ้งข้อหา 560 คน ทำจริงหรือไม่อยากให้ฟันธงมาเลยให้ชัดเจน หากไม่จริงเหตุใดก่อนหน้านี้จึงมาแถลงข่าว และที่เหลือนอกจาก 34 รายที่มีการสั่งฟ้อง จะโดนสั่งฟ้องหรือไม่
2.คือเรื่องที่เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ตนทราบว่าการท่าเรือมีหนังสือมาที่ดีเอสไอว่าจะยุติคดีนี้ หมายถึงจะดำเนินคดีแค่ 34 รายที่เหลือไม่เอาแล้ว หนังสือดังกล่าวนี้มีจริงหรือไม่
ขณะที่ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า สำหรับประเด็นดังกล่าวได้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ในส่วนแรกคือคดีเดิมที่ทางดีเอสไอมีการสอบสวนและส่งไปที่ป.ป.ช. และทางป.ป.ช.ได้ส่งสำนวนกลับมาให้ทางดีเอสไอทำต่อ ก่อนส่งสำนวนไปที่อัยการสูงสุดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในกลุ่มนี้มีผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด 34 ราย และในส่วนที่ 2 คือ เป็นเรื่องที่ทางผู้ถูกกล่าวหามีการทราบมาว่ามีการกล่าวหาทั้งหมดหลาย 100 ราย
หลังจากทางผู้ถูกกล่าวหายื่นคำร้อง ในวันนี้ดีเอสไอก็จะดำเนินการและส่งยื่นเรื่องในวันจันทร์พร้อมเร่งรัดคดีดังกล่าว และคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ในการชี้แจงเป็นหนังสือกลับให้ชัดเจนจะได้คลายทุกข้อสงสัย.