“…โปรดเกล้าฯ กสทช.ชุดใหม่แล้ว จับตาจุดพลิกผันดีลควบรวม ”ทรู-ดีแทค” โดยที่ประชุมมีมติเลือก ศาสตราจารย์คลินิกสรณ บุญใบชัยพฤกษ์ เป็นประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ…”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2565 -ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ระบุว่า ตามที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ รวม 11 คน ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2554 ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2554 นั้น โดยที่ประธานกรรมการและกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ รวม 6 คน ได้พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์ ขอลาออก และเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามให้ดำรงตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560
และต่อมาได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2564 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2564 แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสรรหาและคัดเลือกบุคลากรเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติขึ้นใหม่ และให้กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติซึ่งดำรงตำแหน่งหรือปฏิบัติหน้าที่อยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ยังคงดำรงตำแหน่งหรือปฏิบัติหน้าที่ต่อไป และในกรณีที่มีตำแหน่งว่างลงไม่ว่าด้วยเหตุใด ให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติประกอบด้วยกรรมการเท่าที่เหลืออยู่ ทั้งนี้ จนกว่าจะมีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติชุดใหม่ ตามมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 6 และมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2564 ที่ประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 12 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2564 ได้มีมติให้ความเห็นชอบบุคคลให้ดำรงตำแหน่งกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ รวม 5 คน ได้แก่ (1) พลอากาศโท ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ (ด้านกิจการกระจายเสียง) (2) ศาสตราจารย์พิรงรอง รามสูต (ด้านกิจการโทรทัศน์) (3) ศาสตราจารย์คลินิกสรณ บุญใบชัยพฤกษ์ (ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค) (4) นายต่อพงศ์ เสลานนท์ (ด้านการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน) (5) รองศาสตราจารย์ศุภัช ศุภชลาศัย (ด้านอื่น ๆ) ที่จะยังประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช. (ข) ด้านเศรษฐศาสตร์) และสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้เชิญบุคคลผู้ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา ทั้ง 5 คนดังกล่าวมาประชุมร่วมกัน เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2565 เพื่อเลือกกันเองให้คนหนึ่งเป็นประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
โดยผลปรากฏว่าที่ประชุมมีมติเลือก ศาสตราจารย์คลินิกสรณ บุญใบชัยพฤกษ์ เป็นประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ประธานวุฒิสภาจึงขอให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งผู้สมควรดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ รวม 5 คน ดังนี
๑. ศาสตราจารย์คลินิกสรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการ
๒. พลอากาศโท ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการ (ด้านกิจการกระจายเสียง)
๓. ศาสตราจารย์พิรงรอง รามสูต กรรมการ (ด้านกิจการโทรทัศน์)
๔. นายต่อพงศ์ เสลานนท์ กรรมการ (ด้านการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน)
๕. รองศาสตราจารย์ศุภัช ศุภชลาศัย กรรมการ (ด้านอื่นๆ ที่จะยังประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช. (ข) ด้านเศรษฐศาสตร์)
และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งแล้ว
บัดนี้ ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ตามที่เสนอทุกราย
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การแต่งตั้งกสทช.ชุดใหม่ดังกล่าวยังผลให้กรณีการควบรวมกิจการโทรคมนาคมระหว่าง ทรู และ ดีแทค ที่กำลังเป็นที่วิพากษ์ของสังคมอยู่ในเวลานี้อาจเดินมาถึงจุดพลิกผัน โดยหลายฝ่ายเชื่อว่ากสทช.ชุดใหม่จะมีการดึงเรื่องดังกล่าวกลับมาพิจารณากันใหม่ยกกระบิ หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีความพยายามที่จะปิดดีลควบรวมกิจการที่ว่าก่อนที่ กสทช.ชุดใหม่จะเข้ามา