ยิ่งใหญ่ ตระการตา จังหวัดชลบุรีเปิดงาน “รำลึก 171 ปี พระปิยมหาราช” ณ เกาะสีชัง ท่ามกลางบรรยากาศย้อนยุคสุดคึกคัก เหมือนทะลุมิติย้อนอดีตไปในยุคสมัย ร.5 โดยงานจะมีไปจนถึง 22 กันยายน 2567 ณ พื้นที่บริเวณพระจุฑาธุชราชฐาน
วันนี้ (20 ก.ย.67) เวลา 19.00 น. นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “รำลึก 171 ปี พระปิยมหาราช” โดยมี นางสาวประภัสรา ศรีทอง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรี นายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี นางอำไพ ศักดานุกูลจิต สไลวินสกี้ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี นายชูศักดิ์ นันทิธัญญธาดา นายอำเภอเกาะสีชัง นายสรศักดิ์ เภตรา นายกเทศมนตรีตำบลเกาะสีชัง ทพญ. ณัฏฐ์ศรัย ชัยจินดารัตน์ นายกสมาคมการท่องเที่ยวและบริการศรีราชาเกาะสีชัง ตลอดจนผู้นำท้องถิ่น นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปร่วมกันแต่งชุดไทยย้อนยุคเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า งาน “รำลึก 171 ปี พระปิยมหาราช” จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงวันคล้ายวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ในวันที่ 20 กันยายนของทุกปี ซึ่งชาวอำเภอเกาะสีชัง ทุกหมู่เหล่าได้พร้อมใจกันแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีคุณานุปการต่อปวงชนชาวไทยและชาวเกาะสีชัง นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติได้ทราบถึงประวัติของเกาะสีชัง ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ไทยถึง 3 รัชกาล คือ รัชกาลที่ 4 รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 นับได้ว่าเป็นเกาะที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้หมุนเวียนสู่ชุมชนได้เป็นอย่างดี
สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ นอกจากมีการประดับไฟทั่วทั้งพระจุฑาธุชราชฐาน ซึ่งอยู่ทางทิศใต้แล้ว ยังมีการประดับไฟสมโภช มณฑปรอยพระพุทธบาท ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเกาะด้วย โดยรอยพระพุทธบาทแห่งนี้ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ศิลารอยพระพุทธบาทโบราณมาจากอินเดีย รัชกาลที่ 5 จึงโปรดเกล้าฯ ให้นำขึ้นไปประดิษฐาน ณ ไหล่เขายอดพระจุลจอมเกล้าไว้เป็นที่สักการะบูชา คนที่มาเยือนเกาะสีชังจึงควรมากราบสักการะเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และบริเวณนี้ยังเป็นจุดชมวิวของเกาะ และชมพระอาทิตย์ขึ้น ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในชลบุรีด้วย
ทั้งนี้ เกาะสีชัง ได้ชื่อว่าเป็นอำเภอที่เล็กที่สุดในประเทศไทย ถือเป็นเกาะงามกลางทะเลอ่าวไทยที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด โดยมีระยะทาง 117 ก.ม. จากกรุงเทพฯ และ 12 ก.ม. จากชายฝั่ง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มีจุด UNSEEN ที่สร้างประสบการณ์ความโรแมนติกของการชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก รวมทั้งมีประวัติศาสตร์ งานศิลปะ วิถีชีวิตชุมชนที่น่าหลงใหล ซึ่งที่นี่มีกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด คือการทำผ้าบาติก ตั้งแต่เขียนลาย ลงสี ไปจนถึงการแปรรูปให้เป็นของฝากที่หลากหลาย ให้ได้ช่วยอุดหนุนสร้างรายได้ให้กับชุมชน ไม่ว่าจะเป็น พวงกุญแจ กระเป๋าผ้าบาติก และแม่เหล็กผ้าบาติก ที่สร้างสรรค์ลวดลายจากสัตว์ทะเลนานาชนิด รวมถึงลายกระรอกขาว ซึ่งเป็นสัตว์ประจำถิ่นของเกาะสีชัง พบมากตามป่าบนเขาที่อยู่ทางใต้และตะวันตกของเกาะ โดยกระรอกสีชังนั้นแตกต่างจากกระรอกขาวทั่วไปตรงที่มันเป็นสายพันธุ์หรือชนิดย่อย (Subspecies) ของกระรอกหลากสีที่พบเฉพาะบนเกาะนี้เท่านั้น
ด้านนางอำไพ ศักดานุกูลจิต สไลวินสกี้ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากขอเชิญชวนผู้ที่มาเที่ยวแต่งกายชุดไทย เพื่อสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบย้อนวันวาน พร้อมชมการแสดงแสงสีเสียง เทิดพระเกียรติ “สมเด็จพระปิยมหาราช” และในคืนวันที่ 21 กันยายน ยังมีการประกวดธิดาย้อนยุคด้วย ส่วนวันที่ 22 กันยายน จะเป็นการแสดงมินิคอนเสิร์ท ของศิลปินชื่อดัง ขวัญใจแม่ยก “ไรอัล กาจบัณฑิต” การแสดงศิลปวัฒนธรรม พร้อม ชม ชิม ช้อปอาหารคาวหวาน และอาหารทะเลเมนูเด็ดในตลาดย้อนยุค รวมกว่า 80 ร้านค้า