สำนักข่าวซินหัว รายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 ก.ย. อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) เผยว่าเลบานอนอาจกลายเป็น “ฉนวนกาซาแห่งที่สอง” ท่ามกลางการโจมตีระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
กูเตอร์เรส กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นของสหรัฐฯ ว่า เหตุการณ์ระเบิดของอุปกรณ์สื่อสารเมื่อไม่นานนี้ ในเลบานอน สะท้อนถึง “ความเป็นไปได้ที่สถานการณ์จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น” ซึ่งเขาหวั่นว่า นี่อาจเป็น “โศกนาฏกรรมเลวร้ายสำหรับโลก”
ด้านฌานีน เฮนนิส ผู้ประสานงานพิเศษของสหประชาชาติ ประจำเลบานอน เผยเมื่อวันอาทิตย์ว่าภูมิภาคนี้ใกล้จะเกิดมหันตภัยเลวร้าย ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้แล้ว และอาจไม่มีทางออกทางการทหารใด ที่จะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายปลอดภัยมากขึ้น
กระทรวงสาธารณสุขของเลบานอนรายงานว่า ความตึงเครียดบริเวณชายแดนอิสราเอล-เลบานอน ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังเกิดเหตุระเบิดอุปกรณ์สื่อสารทั่วเลบานอน เมื่อวันอังคารและวันพุธที่ผ่านมา รายงานผู้เสียชีวิตล่าสุด 274 ราย และบาดเจ็บเกือบ 3,000 ราย หลังอิสราเอลส่งเครื่องบินรบโจมตีครั้งใหญ่เป้าหมาย 300 แห่ง ในทางใต้และทางตะวันออกของเลบานอน นับเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี ต่อกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน
ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตจีน ประจำกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในอิสราเอล ให้รีบอพยพออกจากประเทศโดยทันที ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียด จากการสู้รบระหว่างอิสราเอล และกลุ่มฮิซบอลเลาะห์