คดีที่อังกฤษศาลยกฟ้อง ‘ปริญญ์’ ยันผู้เสียหายบางคนไม่เคยรู้จัก แนะสื่อเช็กประวัติ แจงโทร.หาแม่เหยื่อ แค่ขอโทษทำให้ไม่สบายใจ ไม่ได้หนีปัญหา เมื่อมีคนกล่าวหาก็ยินดีพบปะพูดคุย
เมื่อวันที่ 15 เม.ย.2565 นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีหญิงสาวอีกหลายรายออกมาแจ้งความว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศ ว่า บางคนที่ไปแจ้งความฟ้องร้องตนนั้น ยืนยันไม่เคยรู้จักและไม่เคยพูดคุย แต่กลับมาหาเรื่องกัน และอยากให้สื่อมวลชนลองไปตรวจสอบดูให้ดีว่าคนที่มาร้องเรียนนั้น บางคนเป็นใคร มีประวัติ มีที่มาเป็นอย่างไร
อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่าพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และสิ่งที่ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา มีความชัดเจนทั้งหมดแล้ว ส่วนคดีความของตนสมัยที่อยู่ในประเทศอังกฤษนั้น ศาลตัดสินยกฟ้องแล้วว่าไม่ได้กระทำผิด เรื่องจึงจบนานไปแล้ว แต่กลับมีคนหยิบยกมาเขียนกันอีก ซึ่งทำให้ตนได้รับความเสียหาย
เมื่อถามว่าได้แจ้งหรือประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วหรือไม่ว่าจะไปรับทราบข้อกล่าวหาหรือไปให้การเมื่อใด นายปริญญ์ กล่าวว่า ตนพูดเมื่อวานนี้ (14 เม.ย.) แล้วว่ามีความบริสุทธิ์ใจ และได้ลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรคประชาธิปัตย์ ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคฯแล้ว และพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม นี่จึงบอกชัดอยู่แล้วว่าพร้อมไปชี้แจงทุกเมื่อ
ถามว่าทางตำรวจได้มีการติดต่อเรียกตัวแล้วหรือไม่ นายปริญญ์ กล่าวว่า ทางตำรวจให้สัมภาษณ์ไปหมดแล้ว ส่วนตนพร้อมเดินทางไปให้การทุกเมื่อ โดยมีข้อมูลทุกอย่างพร้อมหมด ซึ่งตนอยากให้ตำรวจฟังข้อมูลทั้งหมดจากตนก่อนไปพูดกับสื่อมวลชน ขณะเดียวกันอยากพูดทุกอย่างให้ทุกคนได้ฟัง โดยตนเชื่อว่าทั้งตำรวจ อัยการ และศาล ถ้าได้เห็นและรับฟังสิ่งที่ตนพูดทั้งหมดก็จะได้รู้ว่าตนไม่ได้โกหก และไม่ได้ทำตามข้อกล่าวหา
เมื่อถามว่าถ้าไม่ได้ทำจริงๆ ทำไมถึงต้องโทร.หาแม่ผู้เสียหาย นายปริญญ์ กล่าวว่า การที่คุยกับแม่ผู้เสียหาย ก็เพื่อทำความเข้าใจกัน เป็นการแสดงเจตนาบริสุทธิ์ใจว่าตนไม่ได้ทำอะไร และไม่ได้หนีไปไหน และจะขอโทษทำให้ให้คุณแม่ไม่สบายใจ ให้คุยกันได้ ให้เจอกันได้ และตนไม่ได้หนีปัญหา เมื่อมีคนมากล่าวหาตนก็ยินดีพบปะพูดคุย ว่าเกิดอะไรขึ้นถ้าต้องการจะพูดคุย ตนถึงบอกว่ารู้สึกตกใจที่เห็นโซเชียลฯ เพราะตนไม่มีอะไรต้องซ่อน
ผู้สื่อข่าวพยายามถามอีกว่าทำไมจะต้องมีการนัดน้องที่เป็นผู้เสียหายไปเจอที่โรงแรม นายปริญญ์ กล่าวว่า ไม่ใช่โรงแรม แต่เป็นร้านอาหารแบบเปิด มีคนแน่นร้าน และเป็นเวลาประมาณ 17.00 น. และไม่ได้เจอกันสองต่อสอง ช่วงเวลานั้นคนเยอะมากทั้งร้าน ทั้งนี้เชื่อว่าความจริงจะปรากฏเมื่อตนได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ส่วนรายละเอียดถ้าพูดออกไปตอนนี้ก็จะไม่เป็นผลดีกับตนเองและผู้เสียหาย
ส่วนที่น้องได้ขอความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์จริงหรือไม่นั้น นายปริญญ์ กล่าวว่า ได้มาขอความรู้หลายเรื่องเลย แต่ข้อกล่าวหาไม่ใช่ความจริง
ก่อนที่นายปริญญ์จะยกมือไหว้กับสื่อมวลชน พร้อมกล่าวต่อว่าว่ารายละเอียดนั้นขอความกรุณาให้ตนเองไปชี้แจงกับพนักงานสอบสวน และเชื่อว่าความจริงจะปรากฎเมื่อตนได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการให้สัมภาษณ์ นายปริญญ์ได้ยกมือไหว้นักข่าวเป็นระยะๆ เมื่อถูกถามย้ำถึงรายละเอียดของรูปคดี ส่วนที่นายษิทรามีการพูดถึงคดีที่อังกฤษนั้น นายปริญญ์ ชี้แจงว่า คดีนั้นจบไปนานแล้วและไม่ได้มีอะไรที่มากระทบกับคดีนี้