“… ณ มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน งานสัมมนาทางวิชาการนานาชาติเพื่อรำลึกครบรอบ 2575 ปีแห่งการกำเนิดของขงจื๊อและการประชุมสมาชิกสมัยที่ 7 แห่งสมาพันธ์ขงจื่อนานาชาติ ซึ่งได้สร้างคุณูปการอันใหญ่หลวงแก่การส่งเสริมวัฒนธรรมขงจื๊อ ผลักดันการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและอารยธรรมระหว่างประเทศ กระตุ้นพัฒนาสันติภาพของโลก ซึ่งมีบุคคลจากภาคส่วนต่างๆ เข้าร่วมกว่า 100 ประเทศ รวมกว่า 1,000 คนได้เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ นายพินิจ จารุสมบัติ ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ได้อย่างประทับใจ เมื่อถึงเวลาจัดการเลือกตั้งผู้บริหารสมัยใหม่ของสหพันธ์ นายพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ได้รับเลือกตั้งเป็นรองประธานสภาสหพันธ์ขงจื๊อนานาชาติอีกด้วย พร้อมทั้งรับมอบของที่ระลึกจาก ซุน ชุนหลาน อดีตรองนายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐประชาชนจีน นายกสมาพันธ์ขงจื๊อนานาชาติ เพื่อร่วมดำเนินการจัดงานเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ไทย-จีน ครบรอบ 50 ปี..”
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2567 ที่มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน นายพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ เข้าร่วมงานสัมมนาทางวิชาการนานาชาติเพื่อรำลึกครบรอบ 2575 ปีแห่งการกำเนิดของขงจื๊อและการประชุมสมาชิกสมัยที่ 7 แห่งสมาพันธ์ขงจื๊อนานาชาติ ซึ่งมีบุคคลจากภาคส่วนต่างๆ เข้าร่วมกว่า 100 ประเทศ
โดยแขกผู้มีเกียรติฝ่ายจีนที่เข้าร่วมคือ นายหวังฮู่หนิง ประธานสภาที่ปรึกษาการเมือง แห่งประเทศจีน, คุณ ซุนชุนหลาน อดีตรองนายกรัฐมนตรี แห่งประเทศจีน และนายกสมาพันธ์ขงจื๊อนานาชาติ, นายติงเหว่ย อุปนายกคนที่ 1 สหพันธ์ขงจื๊อนานาชาติ , นายหยางว่านหมิง นายกสมาคมมิตรภาพแห่งประเทศจีน และแขกผู้ใหญ่จากต่างประเทศ นายยาซูโอะ ฟูกูดะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น, นายมัสซิโม ดาเลมา อดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลี, วินเซ็นต์ เมริตัน อดีตรองประธานาธิบดีเซเชลส์ และแขกผู้มีเกียรติจากประเทศมาเลเซียและกัมพูชา รวมกว่า 1,000 คนได้เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้
โดยเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น นายพินิจ จารุสมบัติ ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ ว่า ตนรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญมาเข้าร่วมงานสัมมนาทางวิชาการนานาชาติเพื่อรำลึกครบรอบ 2575 ปีแห่งการกำเนิดของขงจื๊อ และการประชุมสมาชิกสมัยที่ 7 แห่งสมาพันธ์ขงจื๊อนานาชาติ และขอแสดงความยินดีอย่างจริงใจในการเปิดการประชุมครั้งนี้มา ณ โอกาสนี้ด้วย โดยปีนี้เป็นปีครบรอบ 30 ปีแห่งการก่อตั้งสมาพันธ์ขงจื๊อ นานาชาติ
ในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา สมาพันธ์ขงจื๊อนานาชาติได้สร้างคุณูปการอันใหญ่หลวงแก่การส่งเสริมวัฒนธรรมขงจื๊อ ผลักดันการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและอารยธรรมระหว่างประเทศ กระตุ้นพัฒนาสันติภาพของโลก ในอนาคตข้างหน้า สมาพันธ์ขงจื๊อนานาชาติจะต้องได้รับผลสำเร็จอันรุ่งโรจน์ในขอบเขตอันกว้างขวางของโลกอย่างแน่นอน
“ ขงจื๊อเป็นนักคิด นักปราชญ์ นักการศึกษาที่ยิ่งใหญ่ และเป็นผู้ก่อตั้งสำนักปรัชญาขงจื๊อ ความคิดของท่านได้สืบทอดมากว่า 2,000 ปี จนถึงปัจจุบันก็ยังมีอิทธิพลอันทรงพลังต่อการพัฒนาวัฒนธรรมและอารยธรรมทั้งจีนและทั่วโลก ในประเทศไทย ขงจื๊อ ได้รับความเคารพนับถืออย่างสูงจากประชาชนไทย ความคิด เหริน อี้ หลี่ จื้อ ซิ่น ของขงจื๊อ ซึ่งแปลเป็นไทยคือ เมตตาธรรม ยุติธรรม จริยธรรม บัณฑิตปัญญา และความเชื่อถือ ตรงกับวัฒนธรรมขนบประเพณีของประชาชนชาวไทยอย่างใกล้ชิด เข้าสู่ในหัวใจประชาชนไทยอย่างลึกซึ้ง ข้าพเจ้าเองในปี ค.ศ. 2015 ก็ได้เข้าร่วมประชุมฟอรั่มวิชาขงจื๊อ Nishan ที่ศูนย์วัฒนธรรมจีน ณ กรุงเทพ” นายพินิจ กล่าว
นายพินิจ ยังกล่าวต่อว่า ประเทศจีนได้รับอิทธิพลจากความคิดขงจื๊อ เคารพความหลากหลายอารยธรรมของโลก กระตุ้นอารยธรรมโลกพัฒนาร่วมกัน ได้รับความชื่นชมยกย่องจากประชาชนประเทศต่างๆ ทั่วโลก ความคิดแบบ ‘ความปรองดองสามัคคีเป็นสิ่งล้ำค่า’ ของขงจื๊อ เป็นหลักนโยบายอันสำคัญที่จีนถือปฏิบัติต่อต่างประเทศมาโดยตลอด
“เมื่อปี ค.ศ. 2023 ท่านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เสนอในการประชุมสนทนาระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์จีนกับผู้นำพรรคการเมืองของโลกว่า ‘ประชาชนประเทศต่างๆ ทั่วโลกจงยึดมั่นในข้อคิด มนุษย์อยู่ใต้ฟ้าเป็นครอบครัวเดียวกัน พยายามสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ ข้อเสนออันสำคัญของ ท่านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ดังกล่าวเป็นการชี้ทางอย่างถูกต้องให้แก่การส่งเสริมการไปมาหาสู่กันฉันมิตร ระหว่างประเทศต่างๆ ผลักดันอารยธรรมที่ต่างกันให้อยู่ด้วยกันเพื่อรับมือกับการท้าทายต่างๆ ของทั่วทั้งโลก” นายพินิจ กล่าว
นายพินิจ กล่าวต่อไปว่า ขงจื๊อ กล่าวไว้ว่า ‘มิตรสหายจากแดนไกลมาเยี่ยมเยือนมิใช่เรื่องน่ายินดีหรือ’ เราทุกท่านจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกมาพร้อมหน้าเจอกันที่ปักกิ่ง เพื่อเข้าร่วมการประชุมใหญ่ครั้งนี้ เป็นโอกาสที่หาได้ยาก แต่โลกปัจจุบันก็ยังไม่สงบนิ่ง ขอให้เราสามัคคีช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เคารพรักต่อกัน ใช้ความพยายามต่อไปเพื่อให้มนุษยชาติห่างไกลจากสงครามและความทุกข์ยากลำบาก ส่งเสริมให้บรรลุความสงบสุขและเสถียรภาพในโลกทั้งปวง
“ในประวัติศาสตร์อารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ของชนชาติจีน ใน 551 ปีก่อนคริสตกาลได้เกิดนักปรัชญาที่ยิ่งใหญ่ของจีนและของโลก คือ ขงจื๊อ ในขณะเรารำลึกถึงบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ในยุคโบราณ เราก็ยังมีความเคารพนับถือผู้นำอันยิ่งใหญ่ในยุคปัจจุบัน ในปี 1893 ได้เกิดนักปรัชญาและนักปฎิวัติที่ยิ่งใหญ่ของโลก คือ ท่านประธานเหมาเจ๋อตุง เป็นผู้นำที่ผู้ทำให้จีนลุกยืนขึ้น ในเวทีโลก อย่างสง่าผ่าเผย ในปี ค.ศ. 1904 ได้เกิดผู้นำ คือ ท่านเติ้ง เสี่ยวผิง ได้นำพาชาวจีนเจริญรุ่งเรือง มีกินมีใช้ ทำให้จีนได้ผงาดขึ้นมา ในปี ค.ศ. 1953 และวันนี้ได้มี ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ นำพาให้คนจีนแข็งแกร่งและมั่นคง สง่างาม และยังได้มีบทบาทอันสุดยอดแก่การกระตุ้นสันติภาพของโลก ผลักดันความก้าวหน้าแก่อารยธรรมมนุษยชาติ สมกับเป็นผู้นำโลก” นายพินิจ กล่าว
เวลาต่อมา นายพินิจ ให้สัมภาษณ์ว่า บรรยากาศการประชุมในครั้งนี้มีชีวิตชีวาอย่างยิ่ง ขงจื๊อ เป็นนักปราชญ์ที่ได้รับความศรัทธาจากผู้คนทั่วโลก โดยสมาพันธ์ขงจื๊อนานาชาติ ถือเป็นสถาบันที่มีอิทธิพลต่อแนวคิดในเชิงปรัชญาไปทั่วโลกเช่นกัน ทั้งนี้ แนวคิดของปรมาจารย์ขงจื๊อ ยังเป็นอมตะ และทันสมัยอยู่เสมอ เช่น ความปรองดอง และการสร้างสันติภาพให้ผู้คนอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ซึ่งเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยสาธารณรัฐประชาชนจีนให้ความสำคัญและชูแนวคิดดังกล่าว
“วันนี้รู้สึกเป็นเกียรติ และตื้นตันใจอย่างยิ่ง ที่สภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ ได้รับการยอมรับให้เข้ามามีส่วนร่วมในสมาพันธ์ขงจื๊อนานาชาติ ซึ่งถือเป็นองค์กรที่เป็นศูนย์รวมของปรมาจารย์ด้านปรัชญา และลูกศิษย์ลูกหาที่ดำเนินรอยตามแนวคิดของขงจื้อ” นายพินิจกล่าวทิ้งท้าย
และเมื่อถึงเวลา 14.00 น. สหพันธ์ขงจื๊อนานาชาติ ได้จัดการเลือกตั้งผู้บริหาร สมัยใหม่ของสหพันธ์ นายพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ได้รับเลือกตั้งเป็นรองประธานสภาสหพันธ์ขงจื๊อนานาชาติอีกด้วย พร้อมทั้งรับมอบของที่ระลึกจาก ซุน ชุนหลาน อดีตรองนายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐประชาชนจีน นายกสมาพันธ์ขงจื้อนานาชาติ เพื่อร่วมดำเนินการจัดงานเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ไทย-จีน ครบรอบ 50 ปี ต่อไป