บริษัทสหรัฐฯ หลายแห่งประกาศเพิ่มการลงทุนในจีน เนื่องจากมองจีนเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงในระยะยาว และหนึ่งในแรงดึงดูดสำคัญคือพลังของกลุ่มประเทศ ที่เรียกตัวเองว่า “BRICS”
ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่ยังคุกรุ่น และมาตรการขึ้นภาษีสินค้ารถยนต์ไฟฟ้าของกลุ่มยุโรปต่อจีน แต่บริษัทสหรัฐฯ จำนวนมาก กลับไม่สะทกสะท้าน กำลังแสวงหาโอกาสทางการลงทุนในตลาดจีน
ข้อมูลจากหอการค้าอเมริกันในจีน ระบุว่า บริษัทสหรัฐฯ หลายแห่งประกาศเพิ่มการลงทุนในจีนเมื่อไม่นานนี้ เนื่องจากมองจีนเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงในระยะยาว พร้อมแสดงความหวังว่า นโยบายเปิดกว้างของจีนในปี 2024 จะอัดฉีดพลังความคึกคักสู่เศรษฐกิจจีน
หนึ่งในแรงดึงดูดสำคัญของการลงทุนของสหรัฐฯในจีน มาจากการเติบโตของกลุ่มประเทศที่เรียกตัวเองว่า “BRICS” ซึ่งเป็นการจับมือกันของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ และประเทศกำลังพัฒนา หรือ BRICS Plus Summit
จากจุดเริ่มต้นในปี ค.ศ. 2009 ด้วยสมาชิก 4 ประเทศ ประกอบด้วย Brazil (B) Russia (R) India (I) และ China (C) เรียกตัวเองว่าประเทศเศรษฐกิจใหม่ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ต่อมาได้เปิดรับ South Africa หรือ “แอฟริกาใต้” เข้าเป็นสมาชิก ปัจจุบัน BRICS มีสมาชิกแล้วทั้งสิ้น 10 ประเทศ และยังมีอีกกว่า 40 ประเทศ แสดงเจตจำนงต้องการเป็นสมาชิก มีเศรษฐกิจรวมกันคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจโลก อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของ BRICS แซงหน้ากลุ่มจี7 เรียบร้อยแล้ว
การมีสมาชิกที่เป็นชาติมหาอำนาจอย่างจีนและรัสเซีย รวมทั้งอีกหลายประเทศที่ทรงอิทธิพลในแต่ละทวีป เช่น แอฟริกาใต้และบราซิล ครอบคลุมประชากร 3.5 พันล้านคน หรือราว 45% ของประชากรโลก หากพิจารณาในแง่มูลค่าทางเศรษฐกิจ ขนาดเศรษฐกิจของกลุ่ม BRICS มีมูลค่ากว่า 28.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 28% ของมูลค่ารวมของเศรษฐกิจโลก ที่สำคัญคือประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS ยังเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบป้อนตลาดโลกราว 44% อีกด้วย
ในอนาคต พวกเขาอาจสร้างสกุลเงินชนิดใหม่ขึ้นมาใช้ร่วมกัน สำหรับการชำระด้านการค้าระหว่างประเทศ หรืออาจเป็นเงินสกุลคริปโตเคอร์เรนซีก็เป็นได้ กลายเป็นทางเลือกใหม่ที่หลายประเทศต่างสนใจเข้าร่วมเป็นสมาชิกมากขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากนี้ นโยบายเปิดกว้างด้านการลงทุนของของจีน ยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน รัฐบาลจีนยังให้ความสำคัญกับงานวิจัยและพัฒนา มุ่งเน้นการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เปิดกว้างต้อนรับบริษัทต่างชาติ รวมถึงบริษัทอเมริกัน สามารถใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของตัวเอง นำเสนอผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่มีความสามารถทางการแข่งขัน