อาชีพ”ตอแหล” บนเวทีหาเสียง
พวกเราคงได้ยินคำพูดแบบซ้ำซาก ภาษานักการเมือง ตอนขึ้นเวทีหาเสียง แข่งกันตะโกนปากคอสั่น…
ฝ่ายรัฐบาล “สีแดง” ก็บอกว่า…ตระกูลพ่อ ที่สืบทอดตกมาถึงลูก คือความสำเร็จ ต่อยอดทางการเมือง “เพื่อประชาชน”
“นี่ถ้าไม่มีการปฏิวัติ…ประชาชนคงไม่ยากจนขนาดนี้”
เสียเวลามาเกือบ 20 ปี…ไม่มีอะไรดีขึ้นกว่าสมัยเขามีอำนาจ
นอกจากมีหนี้ครัวเรือนท่วมหัว
ขอเวลารัฐบาล อีกไม่นานเราจะหลุดพ้นไปด้วยกัน
“บอกพวกพ่อค้ายาบ้าด้วย…ทักษิณกลับมาแล้ว เราเกลียดยาบ้า ต้องจัดการให้ราบคาบต่อไป….”
หลายๆคำที่หลุดออกมา…คือสิ่งที่คนไทยได้ยินคุ้นเคยคุ้นเคย
ทุกครั้งที่เขาปราศรัยหาเสียงลนเวที…พวกเราต่างปรบมือ ส่งเสียงเชียร์ เหมือนได้ยินเทวดาลงมาโปรด
เช่นเดียวกับ…นักการเมืองซีกฝ่ายค้านและฝ่ายแค้น หลากสี แค่จับคำโกหกบนเวทีของฝ่ายรัฐบาลได้ ในทุกเรื่อง
ก็ได้ยินเสียงร้องสาปแช่งดังก้อง ทั่วพื้นที่ชุมนุมนั้นๆ
ดั่งเสียงสวรรค์ ส่งสัญญาณกำลังใจ ให้รู้ว่า…เทวดาสาย “สีส้ม” สนับสนุนพวกเราเต็มที่นะ
ถ้ามีใครคอยจับผิด “เทวดา” ก็คิดต่างได้…ท่านก็ “เลือกข้าง” เหมือนเช่นประชาชน คนรากหญ้า
ในที่สุด…ทุกคนก็ตาสว่าง หลังเลือกตั้ง จัดรัฐบาลผสม เขาก็รวมเอาพวก ปากกับใจ ไปทางเดียวกัน
ร่วมรัฐเพื่อความร่ำรวย…กับอำนาจในตำแหน่งนั้นๆ มันเกินคุ้ม กับคำด่า
“พวกหน้าไหว้หลังหลอก” ดีกว่าพวก “หมาไม่มีปลอกคอ”
ก็ไม่มีใครกล้าพูดบนเวทีหาเสียง…ที่ต้องพลิกลิ้นปลิ้นปล้อน เพราะไม่ต้องการอยู่อย่าง “อดอยากปากแห้ง”
อยู่เพื่อ…เงิน ย่อมดีกว่า อุดมการณ์ที่เลื่อนลิยบนเงทีหาเสียง
หนทางทำกิน…ในตำแหน่ง “รัฐมนตรี” ใครบ้างที่กล้าพูด “ผมไมเคยสุมหัวกันโกงงบประมาณอผ่นดิน”
ไม่เคยได้ส่วนแบ่งจาก โครงการณ์ใดๆ ตามที่ มีข้าราชดารประจำเขา ย้ำว่า “พวกกูไม่ได้โกงเพียงลำพัง”
นี่คือ…กระแสการเมือง บนเวทีหาเสียง ที่นักการเมือง ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล
“ตอแหลเท่าเทียมกัน”
หรือ…พรรคเพิ่อไทย-พรรคประชาชน ที่ตะโกนหาเสียงหลอกชาวบ้าน ครั้งล่าสุด ท้าย ที่เมืองอุดรฯ ว่าไม่จริง??