เสียงสะท้อนจาก นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ภายหลังหารือกับบริษัทไทยในจีน ณ สถานกงสุลใหญ่ นครเซี่ยงไฮ้ เปรียบเสมือนสปอร์ตไลท์ฉายภาพให้คนไทย มองจีนชัดเจนมากขึ้น โดยพาะการเปิดประตูให้ SME ไทย นำสินค้าขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของจีนมากขึ้น เป็นโอกาสของไทยที่จะขยายการส่งออกไปยังจีน นำไปสู่อนาคตความรุ่งเรืองระหว่างไทยและจีน
นายพิชัย กล่าวว่า ไทยมีความจำเป็นต้องพึ่งพาจีน เพราะเป็นตลาดใหญ่ หากเจรจาต่อรองขายของในจีนจะได้ประโยชน์มาก การค้าการลงทุนระหว่างไทยกับจีน ถือเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์อันดี มีความเชื่อมั่นว่าในอนาคต ตัวเลขจีดีพีของจีนจะขยายตัว 2 เท่าของสหรัฐอเมริกา จึงต้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อประโยชน์ของสองประเทศ ส่วนประเด็นความกังวลเรื่องสินค้าจีนเข้าไทย ตนได้อภิปรายในสภาว่า ไม่อยากให้รู้สึกว่าจีนเป็นผู้ร้าย โดยได้ติดต่อกับทางสถานทูตจีนในไทย ซึ่งทางจีนรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้น และให้ความร่วมมือแก้ปัญหาอย่างเต็มที่
ด้าน นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย กล่าวถึงการนำเข้าสินค้าจากจีน ส่วนใหญ่เป็นสินค้าทุน ที่นำมาผลิตและขายต่อไปยังต่างประเทศ สัดส่วนหลายแสนล้านบาทต่อปี ก่อให้เกิดการจ้างงาน และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยในอนาคต
เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ย้ำว่า จีนกับไทยต่างให้ความสำคัญด้านการค้า การลงทุน พยายามหาวิธีที่เหมาะสม หามาตรการมาควบคุมจัดการผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่อยากให้เหมารวมความร่วมมือในเชิงลบ จนทำลายผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศ รัฐบาลจีนยินดีให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงอื่นที่เกี่ยวข้อง ให้มีความเข้มงวด ในการตรวจสินค้านำเข้าจากจีน ควบคุมให้ถูกต้องตามมาตรฐานและกฎหมายของไทย
