การออกมากล่าวเตือนกลุ่มประเทศ BRICS อย่าคิดดันสกุลเงินอื่นมาแทนที่ดอลลาร์ของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ ด้วยการขู่ขึ้นภาษีนำเข้า 100% เป็นเรื่องที่สร้างความงุนงงให้กับนานาชาติอย่างยิ่ง ซึ่งไม่ควรเกิดจากแนวคิดของผู้นำในดินแดนที่ได้รับการยกย่องว่า “เสรี”
โดยทรัมป์ออกโรงเตือนเมื่อวันเสาร์ 30 พ.ย. ที่ผ่านมาว่า ประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS ไม่ควรคิดสร้างสกุลเงินใหม่ หรือสนับสนุนสกุลเงินอื่น เพื่อให้มาแทนที่สกุลเงินดอลลาร์ของสหรัฐ มิฉะนั้นจะต้องเผชิญกับการเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 100%
ทรัมป์ โพสต์ผ่านทรูธโซเชียล (Truth Social) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของเขาเองว่า เราต้องการคำมั่นจากประเทศเหล่านี้ ว่าจะไม่สร้างสกุลเงินใหม่ของ BRICS หรือสนับสนุนสกุลเงินอื่นใด เพื่อมาแทนที่ดอลลาร์สหรัฐ มิฉะนั้นจะต้องเผชิญกับการเรียกเก็บภาษีนำเข้า 100% และต้องโบกมือลาการส่งสินค้าเข้ามาขายในเศรษฐกิจที่ยอดเยี่ยมของสหรัฐ
ทรัมป์อาจลืมไปว่า สาเหตุหลักทำให้ BRICS ได้รับความนิยม เนื่องจากประเทศกำลังพัฒนา ต้องการสร้างความสมดุลในระเบียบโลกใหม่ เพราะเห็นว่าในช่วงที่ผ่านมา โลกตะวันตกได้เปรียบตลอด การนำเสนอแนวคิดจัดตั้งสกุลเงิน BRICS ให้เป็นสกุลเงินสำรองใหม่ของโลก บนพื้นฐานของตะกร้าเงินสกุลท้องถิ่น ได้กลายเป็นจริงและกำลังเติบโตระดับโลก จากในอดีตที่ทุกประเทศต้องพึ่งพิงสกุลเงินดอลลาร์ การถูกแทรกแซงทางเศรษฐกิจ สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เมื่อเกิดแนวความคิดจัดตั้งสกุลเงินใหม่ ในฐานะสกุลเงินทางเลือก จึงได้รับการสนับสนุนอย่างมาก
ประเทศต่างๆ ตระหนักถึงประโยชน์การทำการค้าระหว่างประเทศ ว่าจะต้องมีอิสระและตัวเลือกที่มากพอ การที่บรรดาสมาชิกกลุ่ม BRICS กำลังหาทางปลีกตัวออกจากดอลลาร์ ไม่ต่างกับความหวังใหม่ในโลกแห่งเสรีภาพ หันมาใช้สกุลเงินของตนเอง เพื่อตอบโต้การครอบงำระบบการเงินโลกของอเมริกา
การออกมากดดันของ “ทรัมป์” จึงกลายเป็นเรื่องที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่า อเมริกากำลังกลัวพลังขั้วโลกใหม่มากเกินไปหรือเปล่า การกระทำดังกล่าว มีแต่จะผลักดันสหรัฐออกจากโลกการค้าเสรี และโมเมนตั้มจะโยกย้ายเข้าหาฝั่งจีนมากขึ้นเรื่อยๆ