เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ครบรอบ 3 ปี รถไฟจีน-สปป.ลาว เปิดให้บริการ นอกจากจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวของ สปป.ลาว เส้นทางนี้ยังส่งผลบวกต่อการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศของไทยกับจีนเร่งตัวขึ้นอีกด้วย
บริษัท การรถไฟแห่งประเทศจีน จำกัด เปิดเผยว่า ทางรถไฟจีน-ลาว กลายเป็นตัวเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หลังจากเปิดดำเนินการมา 3 ปี โดยขนส่งผู้โดยสารกว่า 43 ล้านครั้ง และขนส่งสินค้า 48.3 ล้านตันเมื่อนับถึงวันจันทร์ (2 ธ.ค.)
อนึ่ง ทางรถไฟจีน-ลาว ระยะทาง 1,035 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างนครคุนหมิง ของอวิ๋นหนาน และนครหลวงเวียงจันทน์ของลาว ถือเป็นโครงการสำคัญ ภายใต้กรอบงาน แผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ที่จีนนำเสนอ และเริ่มต้นให้บริการเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2564
สำนักข่าวซินหัว ระบุว่า ปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารต่อเดือน เพิ่มจากกว่า 6 แสนครั้งในช่วงเริ่มดำเนินการ อยู่ที่กว่า 1.6 ล้านครั้งต่อเดือนในปัจจุบัน ขณะจำนวนรถไฟสินค้าข้ามพรมแดน เพิ่มขึ้นจาก 2 ขบวนเป็น 18 ขบวนต่อวัน
นอกจากนี้ ประเภทสินค้าที่มีการขนส่งข้ามพรมแดน ผ่านทางรถไฟจีน-ลาว ยังขยายเพิ่มมากขึ้น จากกว่า 500 ประเภท เป็นมากกว่า 3,000 ประเภท โดยทางรถไฟฯ รองรับการนำเข้าและส่งออกสินค้ากว่า 10.6 ล้านตัน ตั้งแต่เริ่มดำเนินการ มีมูลค่ารวมกว่า 4.4 หมื่นล้านหยวน (ราว 2.07 แสนล้านบาท)
แม้ลาวจะเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ทว่าทางรถไฟจีน-ลาว มีส่วนช่วยลาวในการยกระดับการแลกเปลี่ยนทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ให้ดีขึ้น ทั้งช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้าภายในลาว ถึงร้อยละ 20-40
ขณะที่การขนส่งสินค้าไทย-จีน ผ่านแดนสปป.ลาว มีสัดส่วนการค้าเพิ่มขึ้น 21% ในปี 2567 จากเดิมมีสัดส่วน 12% ในปี 2562 โดยเฉพาะสินค้าอุปโภค บริโภค ผลไม้สดและแปรรูป ขณะเดียวกัน สินค้าจากจีนที่เข้ามาก็มีปริมาณมากขึ้น ถือเป็นโอกาสให้ไทยสามารถใช้สินค้าจากจีนที่มีต้นทุนต่ำ มาผลิตในอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เพื่อส่งออกไปขายยังประเทศที่สามได้อีก
