วันเสาร์, มกราคม 18, 2025
หน้าแรกต่างประเทศจีน“ทรัมป์” เสียว! money war “หยวนดิจิทัล” แผ่ศักยภาพ ผ่าน..เส้นทางสายไหม

Related Posts

“ทรัมป์” เสียว! money war “หยวนดิจิทัล” แผ่ศักยภาพ ผ่าน..เส้นทางสายไหม

“ดิจิทัลหยวน” หรือ “หยวนดิจิทัล” หรือ e-CNY เป็นเงินสกุลดิจิทัล ที่ออกและกำกับดูแลโดยธนาคารกลางจีน (Central Bank Digital Currencies: CBDC) เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 2014 เพื่อใช้แทนเงินสด โดย 1 หยวนดิจิทัล มีมูลค่าเท่ากับ 1 หยวน  

การแจ้งเกิดของ “หยวนดิจิทัล” กลายเป็นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับ “ดอลลาร์” เพราะไม่ใช่แค่การใช้อย่างแพร่หลายในประเทศจีนเท่านั้น แต่ยังเริ่มขยายไปในกลุ่มชาวต่างชาติ โดยจีนเน้นย้ำว่า ไม่ได้ต้องการให้ดิจิทัลหยวน แทนที่ดอลลาร์สหรัฐ หรือสกุลเงินระหว่างประเทศอื่น ๆ แต่มีเป้าหมายเพื่อให้ตลาดมีตัวเลือก  และเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกด้านการค้า–การลงทุน ระหว่างประเทศมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากดิจิทัลหยวน ได้รับการยอมรับกว้างขวาง ในการชำระเงินระหว่างประเทศมากขึ้น ย่อมมีผลกระทบต่อสถานะของดอลลาร์สหรัฐ ในฐานะที่เป็นสกุลเงินหลักของโลก และส่งผลต่ออิทธิพลของสหรัฐได้ ด้วยเหตุนี้ สหรัฐจึงหันมาใส่ใจเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยเมื่อปี 2021 ได้เริ่มมีการพัฒนา “ดิจิทัลดอลลาร์” เช่นเดียวกัน

ในปี 2023 ที่ผ่านมา บริษัทน้ำมันและก๊าซของจีน ได้ทดลองใช้เงินหยวนดิจิทัล ชำระค่าธุรกรรมน้ำมันดิบ 1 ล้านบาร์เรล โดยมีรายงานว่า จีนเตรียมทดลองใช้หยวนดิจิทัลข้ามพรมแดนกับพาร์ทเนอร์ ทั้งซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลปักกิ่งได้ส่งเสริมอย่างแข็งขัน ให้มีการนำเงินหยวนไปใช้ในธุรกรรมระหว่างประเทศ ผ่านข้อตกลงการค้าทวิภาคีต่างๆ และความเป็นหุ้นส่วน ที่มีการขยับขยายออกไปอย่างกว้างขวาง  ภายใต้แผนการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative หรือ BRI)

รายงานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ระบุว่า สัดส่วนของดอลลาร์ในทุนสำรองระหว่างประเทศของโลก ลดลงมาแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ทศวรรษ ที่ 58% ในไตรมาส 4 ของปี 2022  สวนทางกับสถานะของหยวนในตลาดโลก กำลังเติบโตขึ้น จากข้อมูลของธนาคารเพื่อการชำระบัญชีระหว่างประเทศ (BIS) ที่ระบุว่า สัดส่วนของของหยวน ในการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านตลาดอย่างไม่เป็นทางการ เพิ่มขึ้นจากระดับเกือบ 0% เมื่อ 15 ปีก่อน เป็น 7% ในปี 2023 หลายประเทศเริ่มปลีกหนีดอลลาร์ จากการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน โดยเฉพาะประเทศที่ต้องค้าขายกับจีน ที่หันมาใช้เงินสกุลท้องถิ่นและหยวนแทน

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หนึ่งในเป้าหมายของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเตรียมเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ อย่างเป็นทางการ จะมีคำขู่ขึ้นภาษีศุลกากรในอัตรา 200%        และออกคำสั่งห้ามไม่ให้สมาชิกกลุ่มบริกส์ ซึ่งก่อตั้งโดยบราซิล, รัสเซีย, อินเดีย, จีน, และแอฟริกาใต้ ดำเนินการเคลื่อนไหวเพื่อลดความสำคัญของเงินดอลลาร์ เนื่องจากมีรายงานว่า บริกส์กำลังเตรียมที่จะก่อตั้งสกุลเงินตรา เพื่อแข่งขันกับเงินดอลลาร์สหรัฐนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ค่านิยมของหยวนดิจิทัล กำลังขยายไปในโลกกว้าง การซื้อขายแลกเปลี่ยนด้วยสกุลเงินท้องถิ่น กับเงินหยวน เริ่มถูกนำมาใช้มากขึ้น เกิดความสะดวกสบายและมีความเสี่ยงต่ออัตราแลกเปลี่ยนน้อยกว่าการใช้ดอลลาร์ ประเทศต่างๆ ทั่วโลก มุ่งหน้าสู่การละทิ้งการพึ่งพิงดอลลาร์ แม้กับพวกที่เป็นมิตรกับสหรัฐ

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts