นายกฯยืนยัน..ปีใหม่ 2568 คนไทย”มีกินมีใช้มีศักดิ์ศรีฯ”
การเมืองประเทศไทย ปีเก่าหรือปีใหม่ คงไม่แตกต่างทางความคิด จากใจประชาชน ย่อมมองเห็น เป็น 2 ฝ่าย
มีทั้งรักทั้งชัง…รัฐบาล,ที่อยากเห็นฝ่าย “เป็นกลาง” แค่ “เสียงส่วนน้อย
เหมือนเหรียญ 2 ด้าน เสมอ…เพราะอะไรหรือ??
บางคนเห็น…คนไทยมีนิสสัยขี้อิจฉาตาร้อน
นั่นก็พอตีความตามเนื้อเรื่องได้…”เป็นความคับแคบทางความคิด “นักการเมือง” ด้วยกัน ที่ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ
ส่วนประชาชน…ถือข้างหนึ่งข้างใด เพราะเขา มองไปไม่ถึงกำพืด ในตัวตนคนที่คุมบังเหียนอยู่ข้างหลัง
ฟังแค่ข่าวที่เข้าหูมา ทางกระแสโลกยุคใหม่ ทางโซเชียล ที่ชินตาในทางความรู้…”น่าเชื่อถือได้”
กว่าจะเข้าใจถึงแก่นแท้…เบื้องหน้าเบื้องหลังนักการเมือง หรือ พรรคการเมือง ที่พวกเขาเลือก ได้จัดตั้งรัฐบาล
มีรอยเน่าซึมซับเป็นนิสสัยเหมือนคุ้นเคยมานานแสนนาน
ที่ถูกซ่อนไว้ในวาทะบนเวที…ที่เขาถนัดพูดได้ไม่อายปาก
ยังใช้ปาก ระราน “เอาความดีใส่ตัว ยกความชั่วใส่ฝ่ายตรงข้าม” ตามสันดานที่คุ้นเคย
ปีใหม่…คนไทยคงอยากได้สิ่งดีๆ- ความจริงใจ จากสายใยทางการเมือง เพื่อประชาชน..บ้างได้ไหม??
พอจะมีเนื้อหาทางปัญญา เกิดความดีงามตามมา ในความสำนึกต่อหน้าที่ “ผู้แทนปวงชนชาวไทย”
ปากกับใจ…ตรงกันมีมั้ย??
เช่นคำพูด… จากใจนายกฯอุ๊งอิ๊ง “แพทองธาร ชินวัตร” ลูกสาวคนโปรดอดีตนายฯทักษิณฯ
ที่มีวาทะแห่งปี 2567 ย้ำคำมั่นสัญญาว่า จะ…
“ทำให้คนไทย มีกิน มีใช้ มีเกียรติ์ มีศักดิ์ศรี”
ที่คนหน้าเวทีหาเสียง ในทุกสนามจัดตั้ง…คุ้นเคย เพื่อเรียกเสียงปรบมือ
ให้เห็นดีเห็นชอบ กับวาทะทีแหลมคม
ที่ลอยไปตามลม หลังเลิกรากันไป…เช่นนั้นหรือ
คำมั่นสัญญา นายกฯเคยพูดไว้ บนเวทีหาเสียง ไว้ก่อนรับเลือกตั้ง และนำมาเป็นนโยบายแห่งรัฐ แถลงต่อหน้ามวลสมาชิกรัฐสภา
มาวันนี้ คำพูดเหล่านั้น…นำมาใช้เป็นวาทะแห่งปี ที่ว่าไว้ “จะทำให้คนไทย มีกินมีใช้ มีเกียรติ์ มีศักดิ์ศรี”
จริงแท้แค่ไหน??
จะไม่มีนักการเมือง “ไร้จริยธรรม” นั่งคุมอำนาจ เป็นคู่บารมีนายกรัฐมนตรี…อยู่ด้วย!!.