การสนทนาทางโทรศัพท์ครั้งสำคัญ ระหว่าง สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ (17 ม.ค.) บรรลุฉันทามติหลายประการ ทำให้การพัฒนาความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ก้าวสู่จุดสำคัญยุคใหม่
สีจิ้นผิง ได้อธิบายนโยบาย เกี่ยวกับสหรัฐฯ ของจีน อย่างครอบคลุมรอบด้าน และทรัมป์ตอบรับเชิงบวก พร้อมแสดงความคาดหวัง จะรักษาความสัมพันธ์อันดีกับสีจิ้นผิง และเน้นย้ำว่า ความร่วมมือสหรัฐฯ-จีน สามารถแก้ไขปัญหามากมายของโลกได้
ผู้นำจีน กล่าวชัดเจนว่า การแทรกแซงไต้หวันของสหรัฐฯ ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น ในทางกลับกัน กลับเพิ่มความตึงเครียดบริเวณช่องแคบไต้หวัน ซึ่งปัญหาไต้หวัน เกี่ยวข้องกับอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนของจีน โดยจีนหวังว่า ฝ่ายสหรัฐฯ จะดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เคารพผลประโยชน์หลัก และข้อวิตกกังวลของอีกฝ่าย นั่นคือ “การเคารพในหลักการจีนเดียว”
ล่าสุด เมื่อวันศุกร์ (24 ม.ค.) หวังอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน กับ มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ก็ได้สนทนาทางโทรศัพท์กันอีกครั้ง หวังชี้แจงหลักการและจุดยืนของจีน เกี่ยวกับปัญหาไต้หวัน พร้อมกระตุ้นสหรัฐฯ ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากไต้หวันเป็นส่วนหนึ่ง อันมิอาจแบ่งแยกของดินแดนจีน ตั้งแต่โบราณกาล และจีนจะไม่ปล่อยให้ไต้หวัน แยกตัวออกจากมาตุภูมิ ดังนั้นสหรัฐฯ ควรรักษาคำพูดที่จะยึดมั่นหลักการจีนเดียว ตามที่ระบุในแถลงการณ์ร่วมจีน-สหรัฐฯ ทั้งสามฉบับ
ขณะที่ รูบิโอ ย้ำว่า สหรัฐฯ ไม่ได้สนับสนุน “เอกราชไต้หวัน” และหวังว่า ปัญหาไต้หวันจะถูกแก้ไขด้วยสันติวิธี อันเป็นที่ยอมรับทั้งสองฝ่าย ของช่องแคบไต้หวัน สหรัฐฯ ยินดีสื่อสารกับจีน อย่างตรงไปตรงมา แก้ไขจุดแตกต่างอย่างเหมาะสม จัดการความสัมพันธ์ทวิภาคี อย่างสุขุมรอบคอบ ร่วมรับมือความท้าทายระดับโลก รักษาสันติภาพและเสถียรภาพของโลก
