สืบเนื่องจากในสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่าคดีอาชญากรรมออนไลน์มีสถิติที่เพิ่มสูงขึ้น ล่าสุดพบว่าคดีอาชญากรรมออนไลน์ที่เกิดขึ้นสูงสุดยังคงเป็นคดีหลอกขายสินค้าหรือบริการที่ไม่มีลักษณะเป็นขบวนการ รองลงมาคือคดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อหารายได้พิเศษ และคดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อรับรางวัลหรือวัตถุประสงค์อื่นๆ โดยในแต่ละคดีมีผู้เสียหายต่อวันจำนวนมาก ส่วนคดีอาชญากรรมออนไลน์ที่มีมูลค่าความเสียหายสูงสุดคือคดีหลอกลวงให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ รองลงมาคือคดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อหารายได้พิเศษ โดยมีมูลค่าความเสียหายหลายสิบล้านบาทต่อวัน
นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มผู้เสียหายที่ถูกหลอกเพิ่มมากขึ้นคือกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้สูงอายุวัยเกษียณมีเงินเก็บ ช่องโหว่คือการติดโทรศัพท์มือถือ อยู่คนเดียวกลางวัน ทำให้มิจฉาชีพใช้ช่องทางนี้ในการหลอกดูดเงิน วิธีการหลอกของกลุ่มมิจฉาชีพ ยังคงเป็นวิธีการเดิมๆ เช่น หลอกให้รัก, หลอกเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ, หลอกให้กดลิงก์ซื้อสินค้า หรือ หลอกทำธุรกรรม ปัจจัยหลักๆ คือการขาดความรู้ทางเทคนิคในการใช้โซเชียลมีเดีย ไว้ใจคนง่าย ความโดดเดี่ยวทางสังคมอยู่คนเดียวในช่วงกลางวัน มีเงินออมเช่นเงินบำนาญ กองทุน เบี้ยผู้สูงอายุ และอาจจะมีฐานข้อมูลที่เข้าถึงได้ง่าย
กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ได้จัดให้มีโครงการ “สวัสดี ลดภัยไซเบอร์” เพื่อสร้างการรับรู้ การตระหนักรู้ ให้กับประชาชนโดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ ที่มีความเปราะบาง ตกเป็นเป้าหมายสำคัญของกลโกงในโลกไซเบอร์ และเพื่อลดความเสี่ยงจากสูญเสียทรัพย์สินจากภัยออนไลน์
ในโครงการนี้ ตำรวจไซเบอร์ได้นำสถิติคดีอาชญากรรมและแผนประทุษกรรมออนไลน์มาวิเคราะห์เพื่อค้นหา กลโกงที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เช่น การหลอกให้กดลิงค์เพื่อรับเงินบำนาญ, ถูกหลอกว่าเป็นญาติ เพื่อน ลูกหลาน แล้วมายืมเงิน, หลอกว่าได้รางวัลใหญ่ ต้องกรอกข้อมูลส่วนตัว, หลอกให้โอนเงินเพื่อจองสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรม, หลอกให้ทำงานพิเศษ ทำงานง่าย ค่าตอบแทนสูง, หลอกให้ลงทุน ผลตอบแทนสูง, อ้างว่ามีส่วนในสิ่งผิดกฎหมาย ถูกข่มขู่ให้เกิดความกลัว เป็นต้น
โดยข้อมูลดังกล่าวจะถูกสรุปและนำเสนอในรูปแบบ Infographic เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าใจได้ง่าย โดยมีเป้าหมายในการกระจายข้อมูลผ่านช่องทางที่เข้าถึงประชาชนได้ดีที่สุด เช่น การส่งต่อ “ภาพสวัสดีตอนเช้า” ผ่าน Application Line การเผยแพร่ผ่าน Social Media ต่างๆ
ทั้งนี้ โครงการ “สวัสดี ลดภัยไซเบอร์” มีเป้าหมายเพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกลวงในโลกออนไลน์ และสร้างเกราะป้องกันภัยไซเบอร์ในชีวิตประจำวัน ด้วยข้อมูลที่เข้าถึงง่ายและน่าจดจำ
ผบช.สอท. ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การป้องกันภัยไซเบอร์จะสำเร็จได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนในการช่วยกันแชร์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้ทุกคนได้เรียนรู้และระมัดระวังภัยไซเบอร์ในทุกรูปแบบ