“….ภายหลังจาก DeepSeek ออกสู่ตลาด จีนนำแล้วก็นำเลย! นักวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ไทยหลายท่านตั้งข้อสังเกตว่า โอกาสที่สหรัฐฯจะพลิกสถานการณ์มาเป็นฝ่ายนำดูจะริบหรี่เต็มที กระบวนการลักษณะนี้ของจีน ได้ปรากฏให้เห็นในแทบทุกวงการ เช่นรถไฟความเร็วสูงฟู่ซิง ระบบนำทางดาวเทียมเป๋ยโต่ว สถานีอวกาศเทียนกง การสำรวจดวงจันทร์และดาวอังคาร การพัฒนาควอนตัมคอมพิวเตอร์และการสื่อสารควอนตัม การพัฒนาดวงอาทิตย์เทียม การพัฒนาเครื่องบินรบรุ่นที่6 การสื่อสารเคลื่อนที่5-6G รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ และหุ่นยนต์อัจฉริยะฯลฯ โดยทั้งหมดนั้นมักจะลงเอยแบบ”นำแล้วนำเลย” ภาพที่สหรัฐอเมริกากับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วทั้งหลายตพากันตกอยู่ในสภาวะ”ขาลง” จึงมีความเป็นสัจธรรมในตัว ประวัติศาสตร์โลกได้เข้าสู่ยุคจีนนำแล้ว ทั่วทั้งโลกต้องรีบปรับตัว มายืนอยู่บนความถูกต้องของประวัติศาสตร์นี้ ร่วมกับจีนสร้างความเจริญรุ่งเรือง ความทันสมัยก้าวหน้าไปพร้อมกับจีน ตามแนวเสนอของจีนที่ให้ทั้งโลกพัฒนาก้าวหน้าไปด้วยกันและสร้างอารยธรรมใหม่ร่วมกัน เพื่อให้มวลมนุษยชาติบรรลุสู่อนาคตร่วมกัน เพื่อสันติสุขนิรันดรบนดาวโลกดวงนี้…”
![](https://detective-news.com/index2022/wp-content/uploads/2023/09/จับทางจีนOK-300x300.png)
นำแล้วนำเลย 遥遥领先
ปรากฏการณ์DeepSeek ได้สร้างคำถามมากมาย เช่นทำไมคนจีนทำได้ ทั้งๆที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว ไม่เคยไปเรียนในต่างประเทศ? พวกเขามีเคล็ดลับอะไรที่มากไปกว่าการต่อยอดเทคโนโลยีเอไอของโลกตะวันตก? และอีกหลายๆคำถาม ซึ่งคำตอบที่ได้จากเหลียงเหวินเฟิงผู้นำทีมDeepSeekก็คือ พวกเขามีความมั่นใจในอัจฉริยภาพของทีมงานในการพลิกวิธีคิดจากที่เป็นไปในแวดวงเทคโนโลยีเอไอของตะวันตกที่มุ่งสั่งสมทางด้านความเร็วของชิปส์คำนวณประมวลผล มาเป็นการพัฒนาวิธีการคำนวณประมวลผผล โดยไม่ต้องพึ่งพาชิปส์คุณภาพสูงที่มีราคาแพงอย่างตายตัว ทำให้สามารถลดต้นทุนลงได้มาก
อีกทั้งการใช้ภาษาจีนเป็นตัวสื่อสารการทำงานในกระบวนการคำนวณ ประมวลผล ทำให้ประหยัดเวลาเป็นอย่างมาก เนื่องจากภาษาจีนมีจุดเด่นเรื่องมีความหมายกระชับและตีความแม่นยำยิ่งกว่าภาษาอังกฤษเป็นอย่างมาก เป็นต้น
ภายหลังจากDeepSeekออกสู่ตลาด โดยเปิดกว้างให้ผู้ใช้สามารถก๊อปปี้สูตรโมเดลใหญ่ไปต่อยอดพัฒนาเป็นของตนเอง ทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่เดิมๆเช่นโอเพ่นเอไอ เมต้า เป็นต้นปรับตัว เพื่อลดความเสียเปรียบในด้านการแข่งขันกับDeepSeek แต่โดยภาพรวมแล้ว โอกาสที่จะพลิกสถานการณ์แทบจะไม่ปรากฏ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการสตาร์เกตราคาแพงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ดูจะพับไปเรียบร้อยแล้ว
นักวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ไทยหลายท่านตั้งข้อสังเกตว่า โอกาสที่สหรัฐฯจะพลิกสถานการณ์มาเป็นฝ่ายนำดูจะริบหรี่เต็มที
อีกนัยหนึ่ง จีนนำแล้วก็นำเลย!
ด้วยการนำของจีนครั้งนี้ มิใช่เป็นการไล่กวดในลู่วิ่งเดียวกัน แต่ฝายจีนได้วิ่งไปบนลู่วิ่งใหม่ที่ตนเองสร้างขึ้นมาเอง ที่สามารถช่วยให้ทีมจีนวิ่งได้เร็วกว่า
กระบวนการลักษณะนี้ของจีน ได้ปรากฏให้เห็นในแทบทุกวงการ เช่นรถไฟความเร็วสูงฟู่ซิง ระบบนำทางดาวเทียมเป๋ยโต่ว สถานีอวกาศเทียนกง การสำรวจดวงจันทร์และดาวอังคาร การพัฒนาควอนตัมคอมพิวเตอร์และการสื่อสารควอนตัม การพัฒนาดวงอาทิตย์เทียม การพัฒนาเครื่องบินรบรุ่นที่6 การสื่อสารเคลื่อนที่5-6G รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ และหุ่นยนต์อัจฉริยะฯลฯ
โดยทั้งหมดนั้นมักจะลงเอยแบบ”นำแล้วนำเลย” สะท้อนถึงกฎเกณฑ์การขับเคลื่อนของประวัติศาสตร์ขั้นปัจจุบันที่ “ตะวันออกลอยสูง ตะวันตกคล้อยต่ำ” อย่างชัดเจน
ภาพที่สหรัฐอเมริกากับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วทั้งหลายตพากันตกอยู่ในสภาวะ”ขาลง” จึงมีความเป็นสัจธรรมในตัว
ในมุมมองของผู้เขียน นี่ก็คือกฎเกณฑ์ของประวัติศาสตร์ที่ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงไปเป็นอื่นได้
อีกนัยหนึ่ง ประวัติศาสตร์โลกได้เข้าสู่ยุคจีนนำแล้ว ทั่วทั้งโลกต้องรีบปรับตัว มายืนอยู่บนความถูกต้องของประวัติศาสตร์นี้ ร่วมกับจีนสร้างความเจริญรุ่งเรือง ความทันสมัยก้าวหน้าไปพร้อมกับจีน ตามแนวเสนอของจีนที่ให้ทั้งโลกพัฒนาก้าวหน้าไปด้วยกันและสร้างอารยธรรมใหม่ร่วมกัน เพื่อให้มวลมนุษยชาติบรรลุสู่อนาคตร่วมกัน เพื่อสันติสุขนิรันดรบนดาวโลกดวงนี้
ไขคำจีน
领先 หลิ่งเซียน นำหน้า