“อีอีซี” บทพิสูจน์ “ไทย-จีน” แบ่งปันความรุ่งเรือง จาก “ทวิภาคี” สู่ภูมิภาค

เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี เป็นหนึ่งในหมุดหมาย การพัฒนาเศรษฐกิจของไทย ด้วยการดึงกลุ่มทุนต่างชาติ เข้ามาตั้งฐานการผลิตสินค้ายุคใหม่ ด้วยนวัตกรรมเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และจีนเป็นหนึ่งประเทศ ที่สร้างการเติบโตให้กับอีอีซีอย่างต่อเนื่อง

โดยในช่วงปี พ.ศ. 2561 – เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2567 ภาคธุรกิจจีน ให้ความสนใจลงทุนเป็นอย่างมาก มีมูลค่าการลงทุน ในอีอีซี สูงถึง 289,951 ล้านบาท

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 50 ปี ไทยและจีนมีหลักการและวิสัยทัศน์ ในการสร้างความร่วมมือ แบบแบ่งปันความเจริญรุ่งเรือง โดยจีนพร้อมสนับสนุนบทบาทของไทย ในทุกกรอบความร่วมมือ ทั้งระดับทวิภาคี พหุภาคี และภูมิภาค

และเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 ณ North Hall มหาศาลาประชาชน สาธารณรัฐประชาชนจีน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ นายหลี่ เฉียง (H.E. Mr. Li Qiang) นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยการส่งเสริมด้านการลงทุนสาขาเศรษฐกิจดิจิทัล ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กับ กระทรวงพาณิชย์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมี นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการ สกพอ. หรือ อีอีซี และนายหวัง เหวินเทา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นผู้ลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ซึ่งมีผู้แทนระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐ ทั้งจากประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าร่วมงาน

การลงนาม MOU ครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี และถือเป็นก้าวสำคัญ ในการส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล สนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย ในพื้นที่อีอีซี เสริมสร้างความร่วมมือในการพัฒนาระบบการชำระเงิน ที่มีประสิทธิภาพ ระบบโลจิสติกส์อัจฉริยะ คลังสินค้าอัจฉริยะ การแสดงสินค้าทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ขับเคลื่อนให้เกิดการลงทุนอย่างเต็มที่  เพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถการแข่งขัน ของกลุ่มผู้ประกอบการเป้าหมายในพื้นที่อีอีซี