นายสมชาย จันทร์วันเพ็ญ หรือลุงแป๊ะ วัย 69 ปี เกษตรกรปลูกผัก ผลไม้ขายใน หมู่ 15 ต.สบเตี๊ยะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เล่าความเป็นมาว่า เดินทางมาอยู่ที่นี่ได้ 23 ปีแล้ว เป็นพื้นที่ซึ่งตั้งอยู่เชิงดอยอินทนนท์ติดกับอุทยานแห่งชาติออบหลวง ในช่วงแรกนั้นมาปลูกลำไยเพื่อขายแต่ประสบปัญหา การดูแลตลอดจนราคาที่ตกต่ำ จึงเปลี่ยนมาทำแปลงผักสวนครัว และมองหาตลาดเพื่อส่งขายเป็นอาชีพเลี้ยงครอบครัว
โดยผักที่ปลูกส่วนใหญ่นำไปขายส่งให้แก่ห้างแมคโครและโลตัส โดยหากชาวบ้านในละแวกนี้ต้องการเราให้ฟรี หรือถ้าบ้านไหนมีงานบุญ งานขาวดำ งานขึ้นบ้านใหม่ เราจะนำเอาผักที่ปลูกไปช่วยในงาน ซึ่งก็มีหลาย ๆ อย่างที่ไปแจกไม่ใช่ผักอย่างเดียว ทุกอย่างที่ปลูกในสวน ชาวบ้านแถวนี้หากมีความต้องการ ผมแจกให้ฟรีหมด ไม่คิดเงิน ทำแบบนี้มานานแล้ว โดยในหมู่บ้านนี้มีกันอยู่ประมาณ 400 กว่าชีวิต
ลุงแป๊ะเล่าต่อ ดั้งเดิมเป็นคนจังหวัดนนทบุรี และมีคนแนะนำให้มาใช้ชีวิตที่แห่งนี้ โดยส่วนตัวก็ชอบบรรยากาศที่เชียงใหม่ ช่วงก่อนหน้าที่จะเดินทางมา ตนเองเคยทำงานเป็นกระเป๋ารถเมล์ ทำงานช่าง และค้าขาย ทำไร่ทำนา ทำสวน ทำมาหลายอาชีพ และก็พยายาม เก็บเงินได้ก้อนหนึ่งจึงตัดสินใจมาซื้อที่ดินตรงนี้ ในสมัยนั้นราคาไม่แพง เพราะที่ดินแปลงนี้ไม่มีโฉนด รัฐให้ใช้เพื่ออยู่อาศัยและประกอบอาชีพ ไม่สามารถนำไปขายต่อได้
ทุกวันนี้ในการเดินทางไปที่ต่างๆ ผมจะใช้จักรยานคู่ใจเป็นยานพาหนะ ในสมัยที่ยัง อยู่กรุงเทพ ฯ ผมขี่มอเตอร์ไซค์ไม่เป็น ใช้แต่จักรยานขี่ไปทั่วเลย ซึ่งที่นี่ผมปั่นจักรยานไปที่วัดถ้ำตองเป็นประจำ ซึ่งห่างจากแปลงผักกว่า 10 กิโลเมตร เพื่อไปทำบุญ และไปถวายแรงงานช่วยกิจการงานวัดต่างๆ ด้วย
หลักการดำเนินชีวิตนั้น สำหรับผม เป็นคนไม่มีห่วงอะไรมากมาย ด้วยอยู่กัน 2 คนกับภรรยา คือ นางสมใจ จันทร์วันเพ็ญ อายุ 77 ปี และน้องหมา 3 ตัว ไม่มีหนี้สิน ทำได้แค่ไหนก็แค่นั้น ปัจจุบันนี้อายุก็มากแล้ว ผมยึดหลัก ที่พอเพียง ตามรอย ในหลวง ร ๙ แบบเต็มๆ หัวใจ คือ พืชผักสวนครัวรั้วกินได้ และใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง ที่พระองค์วางไว้ให้ตราบจนทุกวันนี้ แปลงปลูกผักจะมีต้นสะระแหน่อยู่ 4 ไร่ ต้นกุ้ยช่าย 2 ไร่ ปลูกหมุนเวียนกันเพื่อให้ผลผลิตของผักออกมาสวยและได้มาตรฐานที่ทางห้างแมคโครวางไว้
วิกฤตโควิด ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบกับรายได้พอสมควร คือ การสั่งซื้อผักจะลดน้อยลงไปหลายเปอร์เซ็นต์เหมือนกัน แต่ด้วยเราอยู่กันสองตายายไม่มีลูก อยู่กันอย่างพอเพียง มีผักผลไม้ในสวนกินตลอด ซึ่งก็มีหลานอยู่ทางกรุงเทพฯ มาเยี่ยมหาบ้าง แต่ด้วยช่วงวิกฤตโควิดจึงไม่ได้เดินทางมากัน การดำเนินชีวิตในทุกวันนี้ ไม่รู้สึกเหงา เพราะมีธรรมะประจำใจ คือ สวดมนต์ ไหว้พระ ทำสมาธิ และสิ่งที่ทำให้ไม่เหงาเลย คือ เลี้ยงน้องหมาเป็นลูก 3-4 ตัว และยังมีเพื่อนบ้านที่รักใคร่กันเหมือนลูกหลาน…ผมจ้างคนงานซึ่งเป็นสามีภรรยามาช่วยทำงานในสวน ด้วยความชราภาพและพื้นที่ในสวนมีจำนวนหลายไร่ ซึ่งทั้งคู่ก็จะเรียกผมว่าพ่อ
การอยู่กับธรรมชาติ ปั่นจักรยานไป ทำให้สุขภาพดีมากในวัย 69 ปี และเป็นการออกกำลังกายไปด้วย นอกจากผักสวนครัว ที่ปลูกส่งขายแล้วสวนของเรายังปลูกไม้ผล คือ แก้วมังกรหลายสี มะยงชิด มะม่วง กล้วยน้ำว้า กล้วยหอม ส้มโอ ส่งห้างโลตัส มีซัพพลายเออร์มารับไปขายต่อ ที่ดินของผมมีจำนวน 6 ไร่ แต่เป็นของพี่ชายซึ่งเสียชีวิตไปแล้วอีก 10 กว่าไร่ โดยผมเป็นคนดูแลทั้งหมด และมีรถกระบะอยู่คันหนึ่งไว้ใช้งานขนส่งบ้าง แต่ขับรถไม่เป็น จะมีคนงานที่เป็นชาวบ้านละแวกนี้ซึ่งผมจ้างไว้เป็นคนขับให้เวลาที่ต้องขนผักผลไม้ไปส่งขายในเมือง หรือไปช่วยงานบุญต่างๆ
การปลูกผักสวนครัวขายส่งนั้น ลุงแป๊ะบอกว่า สร้างรายได้ต่อเดือน ประมาณหมื่นกว่าบาท ซึ่งหากใครสนใจปลูกผักเป็นอาชีพสามารถเข้ามาดูเรียนรู้ได้ที่แปลงผักของเรา ผมพร้อมจะแนะนำการปลูกให้ไม่หวงวิชา เพราะผักผลไม้ของเราทั้งหมดเป็นผักอินทรีย์ปลอดสารพิษ…ด้วยการส่งขายห้างแมคโคร จะมีระบบแบบแผนการตรวจสารพิษตลอดเป็นมาตรฐาน
ลุงแป๊ะ ซึ่งชาวบ้านในหมู่ 15 ละแวกนี้ให้ความรักและนับถือ และมองว่าลุงเป็นคนดีศรีจอมทอง ลุงบอกกับเราว่า ขอให้ทุกคนตั้งมั่นในศีล สมาธิ ปัญญา ซึ่งจะทำให้ชีวิตมีความเจริญรุ่งเรื่อง และขอให้ทุกอย่างที่ลงมือทำนั้น ทำด้วยใจจริง อย่าท้อถอย เพราะถ้าท้อแล้วชีวิตจะไปไม่รอด ขอให้ทุกคนมีความขยันขันแข็ง…สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือต้องมีศีล สมาธิ ปัญญา เป็นหลักประจำตัวเรา.
ลุงแป๊ะ เกษตรกรปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้ บ้านสวนนนทวีโชค คนดีศรีจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นนักสู้ไม่ย่อท้อต่อชีวิต ยึดหลักเศรษฐกิจ ตามรอยพ่อ พอเพียง ในองค์รัชกาลที่ ๙…มีความน่ารักจริงใจในสไตล์ลูกทุ่ง มุ่งมั่นทำความดี สร้างชีวีเป็นแบบไว้ หนึ่งตัวอย่างคนไทยในแผ่นดิน