วันเสาร์, มีนาคม 1, 2025
หน้าแรกคอลัมนิสต์สืบจากข่าวเปิดโอกาสทางการศึกษาให้เด็กข้ามชาติ สิทธิมนุษยชนกับผลกระทบต่อความมั่นคง

Related Posts

เปิดโอกาสทางการศึกษาให้เด็กข้ามชาติ สิทธิมนุษยชนกับผลกระทบต่อความมั่นคง

ประเทศไทยมีกลุ่มประชากรข้ามชาติจากเมียนมา ลาว และกัมพูชา เคลื่อนย้ายอพยพมาทำงานและพักอาศัยในประเทศไทยมานมนานไม่ต่ำกว่า 40-50 ปีแล้ว ประชากรข้ามชาติที่เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทยเหล่านี้ จากข้อมูลของมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) มีการคาดการณ์ว่าจำนวนตัวเลขแรงงานโดยรวม คาดว่าไม่ต่ำกว่า 6-7 ล้านคน ส่วนหนึ่งในจำนวนนี้อยู่ในระบบที่มีเอกสารรับรองจากทางการของประเทศเพื่อนบ้านและทางการไทยเพียง 3 ล้านคน

แรงงานข้ามชาติจากประเทศเมียนมา ลาว กัมพูชา กลุ่มที่มาจากเมียนมาเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60-70 นอกจากเป็นประชากรข้ามชาติที่เข้ามาทำงานทั้งในภาคอุตสาหกรรม การเกษตร ก่อสร้างและบริการ ยังมีผู้ติดตามเป็นเด็กลูกหลานแรงงานเหล่านั้น และมีกลุ่มเด็กเกิดในประเทศไทยอีกจำนวนหนึ่ง เด็กลูกแรงงานเหล่านี้ เข้าถึงโอกาสทางการศึกษาในประเทศไทยได้น้อย แม้ว่าประเทศไทยมีนโยบายให้เด็กในประเทศไทยทุกคนได้เรียนหนังสือภาคบังคับได้เหมือนเด็กไทย แต่ในทางปฏิบัติยังมีปัญหาอุปสรรคในการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาอยู่มาก

การจัดการศึกษาให้เด็กลูกหลานแรงงานข้ามชาติเป็นเรื่องที่ประเทศไทยให้ความสำคัญ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา นายวิรัตน์ รุ้งแก้ว รองประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม วุฒิสภา ในฐานะประธานอนุกรรมการการส่งเสริมการเรียนรู้ การศึกษาเอกชน การศึกษาพิเศษ และความเท่าเทียมทางการศึกษา พร้อมคณะ เดินทางไปที่ศูนย์ฝึกอบรมและส่งเสริมความรู้แก่เด็กข้ามชาติ แรงงานข้ามชาติชาวเมียนมา เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าเรียนในระบบการศึกษาไทย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร และที่โรงเรียนวัดศิริมงคล อ.เมือง เพื่อศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดการศึกษาสำหรับเด็กที่ไม่มีสัญชาติไทยและบุตรหลานแรงงานข้ามชาติ(เมียนมา) โดยการเดินทางมาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเก็บข้อมูลในด้านต่างๆ เช่น ข้อมูลเชิงปริมาณเกี่ยวกับการจัดการศึกษาในพื้นที่จริง ลักษณะทางกายภาพของสถานการศึกษาหรือศูนย์การเรียนรู้ คุณภาพ ประสิทธิภาพ ประสิทธิผลในการจัดการศึกษา ความเท่าเทียม ความเสมอภาค รวมทั้งผลกระทบและแนวทางในการแก้ไขปัญหาการจัดการศึกษา เพื่อสรุปเสนอต่อคณะกรรมาธิการ ฯถ้าคณะกรรมาธิการฯ เห็นชอบ ก็จะส่งต่อไปให้คณะรัฐมนตรีพิจารณานำไปปฏิบัติ

นายสุรพงษ์ กองจันทึก รองประธานมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) ซึ่งเข้าร่วมให้ข้อมูลแก่คณะอนุกรรมาธิการ ฯ วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ “สืบจากข่าว” ว่า สภาพปัญหาเด็กลูกหลานแรงงานข้ามชาติจากประเทศเมียนมาเข้าไม่ถึงโอกาสทางการศึกษา มาจากหลายสาเหตุ สาเหตุหนึ่งคือแม้ประเทศไทยมีนโยบายจัดการศึกษาให้เด็กทุกคนรวมถึงเด็กข้ามชาติในประเทศไทย แต่ก็มีปัญหาโรงเรียนส่วนหนึ่งไม่สนองตอบนโยบาย ไม่รับเด็กลูกแรงงานข้ามชาติเข้าเรียน หรือโรงเรียนบางแห่งยึดติดเอกสารประกอบการรับเข้าเรียนซึ่งเด็กเหล่านี้ไม่มีเพราะไม่ใช่เด็กไทย

สถานการณ์การสู้รบระหว่างรัฐบาลทหารพม่ากับกองกำลังกลุ่มต่อต้านหลายกลุ่มชาติพันธุ์ โดยเฉพาะตามแนวชายแดนประเทศไทย มีรายงานการสู้รบถึงขั้นเข้ายึดครองพื้นที่ ทำให้โรงเรียนต้องปิดตัว กลุ่มชาติพันธุ์จากเมียนมาอพยพหลบหนีเข้ามาในประเทศไทยนับแสนคน ประมาณว่าครึ่งหนึ่งเป็นเด็ก เด็กเหล่านี้จึงไม่มีโอกาสได้รับการศึกษา

ในส่วนของภาคประชาชน การมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาให้เด็กเหล่านี้มีโอกาสได้รับการศึกษา อย่างที่ศูนย์ฝึกอบรมและส่งเสริมความรู้แก่เด็กข้ามชาติ แรงงานข้ามชาติชาวเมียนมา เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าเรียนในระบบการศึกษาไทย ซึ่งคณะกรรมธิการฯมาดูงาน เด็กเหล่านี้เป็นกลุ่มชาติพันธุ์จากเมียนมาที่เกิดและอยู่ในประเทศไทย ที่เข้าไม่ถึงสิทธิทางการศึกษา จนต้องรวมตัวจัดการศึกษาเอง โดยมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN)เข้ามาสนับสนุน และสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ สมุทรสาคร เข้ามาช่วยจัดการศึกษา เป็นการแก้ปัญหาในเบื้องต้นทางหนึ่ง

นายสุรพงษ์ กล่าวถึงทัศนคติของคนบางกลุ่มมองว่า การให้เด็กลูกหลานแรงงานข้ามชาติมีสิทธิ์ได้รับการศึกษาจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติในอนาคต เพราะเด็กเหล่านี้เรียนในประเทศไทย ใช้ภาษาไทย มีความรู้ แต่ไม่ใช่คนสัญชาติไทย แต่หากมองในทางตรงกันข้าม เมื่อเด็กเหล่านี้เติบโตขึ้น ได้ใช้ภาษาไทย ได้รับการศึกษา อยู่ในสภาพแวดล้อมของสังคมไทย แม้จะไม่ใช่คนสัญชาติไทย ก็จะมีความเข้าใจเกี่ยวกับประเทศไทย เมื่อมีการศึกษา มีความรู้ จะเป็นการส่งเสริมความมั่นคงของประเทศมากกว่า

นอกจากนี้ หากเด็กข้ามชาติเหล่านี้เข้าไม่ถึงการได้รับการศึกษา ก็ต้องทำงานตั้งแต่เด็ก เช่นที่เคยเห็นมีเด็กทำงานแกะกุ้งในตลาดขายของทะเลและทำงานอื่นที่เด็กยังไม่ควรทำ ภาพที่ออกไปทำให้ประเทศอื่นมองว่าประเทศไทยมีการใช้แรงงานเด็ก ทำให้ภาพลักษณ์ประเทศเสียหาย รัฐจึงต้องสนับสนุนให้เด็กข้ามชาติได้รับการศึกษา

“สืบจากข่าว” ได้ติดตามค้นหาข้อมูลเรื่องเด็กข้ามชาติไม่ได้รับโอกาสทางการศึกษา พบว่าส่วนหนึ่งครอบครัวแรงงานข้ามชาติยากจน ขาดแคลนปัจจัยในการดำรงชีวิติ จึงไม่ส่งบุตรหลานไปโรงเรียน หลายครอบครัวมีที่ทำงานที่พักอาศัย อยู่ห่างไกลจากสถานศึกษา สถานศึกษาบางแห่งไม่ตอบสนองนโยบายการเปิดรับเด็กเข้าเรียน มีทัศนคติเชิงลบต่อคนย้ายถิ่น สถานศึกษาในสังกัดองค์กรปกครองท้องถิ่นส่วนใหญ่ก็ไม่มีนโยบายรับเด็กเหล่านี้

จากบทความของ นายสมพงค์ สระแก้ว ผู้อำนวยการมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) เรื่อง “วิกฤตการณ์ทางสังคมและผลกระทบของเด็กต่อการจัดการปัญหาเชิงระบบของการศึกษาแก่เด็กผู้ไม่มีสถานะบุคคล และทางทะเบียน และข้อเสนอทางนโยบาย” มีข้อเสนอเชิงนโยบาย ข้อเสนอที่เป็นรูปธรรม ดังนี้

สถานศึกษาทุกรูปแบบ หน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยงานต้องมีหน้าที่ส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษาแก่เด็กข้ามชาติให้ครอบคลุมทั่วถึงในพื้นทีต่างๆ ที่มีกลุ่มประชากรข้ามชาติพักอาศัยอยู่ และทำงานเป็นจำนวนมาก

ส่งเสริมสนุบสนุนให้องค์กรภาคประชาสังคม กลุ่มเครือข่ายทางสังคมแรงงานข้ามชาติในประเทศไทย กลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ จัดการศึกษาแก่เด็กข้ามชาติในหลายๆ รูปแบบตามปัญหาและความต้องการของกลุ่มนั้นๆ และมีการสนับสนุนงบประมาณร่วมด้วย

กระทรวงศึกษาผลักดันให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพฐ.) และศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ ภายใต้กรมส่งเสริมการเรียนรู้ หรือ กรมส่งเสริมการเรียนรู้ มีบทบาทใหม่ในการทำงานเชิงรุกและจัดการศึกษาแก่เด็กข้ามชาติ และพัฒนาความร่วมมือกับองค์กรภาคประชาสังคม กลุ่มเครือข่ายทางสังคมแรงงานข้ามชาติในประเทศไทย กลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ จะส่งผลทำให้เห็นภาพในเชิงปริมาณและคุณภาพ

พัฒนาการจัดเก็บเป็นข้อมูลขนาดใหญ่ BIG DATA เพื่อให้เห็นตัวเลขเพื่อนำมาจัดทำนโยบายการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในฐานะที่เป็นองคาพยพหนึ่งของประเทศไทย

จัดทำเป้าหมายใหญ่ในเชิงยุทธศาสตร์ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของกลุ่มประชากรอาเซียน มี Road Map ที่ชัดเจนให้กับผู้ให้การศึกษา หน่วยงาน สถาบันต่างๆ และผู้เรียน จะได้กำหนดทิศทางอนาคตของตนเองได้ เช่น เรียนจบปริญญาตรี แล้วประกอบอาชีพอะไรได้ สถานะทางกฎหมายเป็นคุณแก่ผู้เรียน ได้รับการยอมรับในอาชีพการงาน เป็นต้น

การพัฒนาระบบการศึกษาไทยและการศึกษาข้ามพรมแดน อาทิ ไทย เมียนมา ไทย กัมพูชา ไทย ลาว ให้สอดคล้องส่งต่อไปได้อย่างมีมาตรฐาน เมื่อตนเองอยู่ที่ได้ย้ายไปที่ใดสามารถเรียนต่อในขั้นสูงต่อไปได้เลย

การได้รับโอกาสทางการศึกษาของเด็กข้ามชาติ เป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน สิทธิเด็ก ซึ่งนานาประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญและยอมรับ สำหรับประเทศไทย การเปิดโอกาสให้เด็กข้ามชาติได้รับการศึกษาในระบบการศึกษาไทย เมื่อเด็กเหล่านี้เติบโตขึ้น แม้จะไม่มีสัญชาติไทย แต่เชื่อว่าส่วนหนึ่งก็จะทำงานในประเทศไทย การได้รับการศึกษา มีความรู้ คุ้นเคยกับสังคมไทย น่าจะเป็นส่วนส่งเสริมความมั่นคงของประเทศ โดยเฉพาะความมั่นคงด้านเศรษฐกิจ เพราะปัจจุบัน ประเทศไทยขาดแคลนแรงงานหลายประเภท โดยเฉพาะแรงงานที่คนไทยไม่นิยมทำเป็นอาชีพ เด็กข้ามชาติที่ได้รับการศึกษาจะเติบโตเป็นแรงงานที่เป็นแรงงานคุณภาพในประเทศไทยในอนาคต

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts