กองทัพปลดแอกประชาชนจีน (PLA) ทุ่มเทความพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อบรรลุเป้าหมายแห่งศตวรรษ ของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ในปี 2027
จีนเร่งสร้างกองกำลังติดอาวุธระดับโลก โดยถือเป็น “ความจำเป็นเชิงยุทธศาสตร์” ในความพยายามสร้างประเทศ ให้ทันสมัยทุกด้าน ด้วยผลลัพธ์อันแข็งแกร่ง และบรรลุเป้าหมายตามกำหนดเวลา
กองทัพเรือของจีน ถือเป็นกองทัพเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก แซงหน้ากองทัพเรือสหรัฐอเมริกา โดยมีกำลังรบมากกว่า 370 ลำ มากกว่ากองทัพเรือสหรัฐอเมริกา ที่มีเรือรบ 296 ลำ ทั้งเรือดำน้ำ เรือผิวน้ำ เรือสะเทินน้ำสะเทินบก เรือประจัญบานทุ่นระเบิด เรือบรรทุกเครื่องบิน และเรือสนับสนุน ยังไม่นับรวมเรือลาดตระเวน ที่ออกแบบมาเพื่อปฏิบัติภารกิจ โจมตีเรือรบข้าศึก ด้วยขีปนาวุธพิสัยไกล อีกประมาณ 60 ลำ คาดว่ากำลังรบทางทะเลของจีน จะเพิ่มขึ้นเป็น 395 ลำ ภายในปี 2025 และ 435 ลำ ภายในปี 2030
ปธน.สีจิ้นผิง ตั้งเป้าที่จะปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยอย่างสมบูรณ์ ภายในปี 2035 โดยกองทัพจีนกำลังพัฒนาขีปนาวุธ เรือรบ เรือดำน้ำ และเทคโนโลยีการเฝ้าระวังใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง
จีนพัฒนา “กองทัพอัจฉริยะ” เพื่อการรบแห่งโลกอนาคต โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ทั้งระบบนำทางขีปนาวุธ อากาศยานและเรือไร้คนขับ รวมทั้งหุ่นยนต์ทางทหาร
ในปี 2025 จีนประกาศเพิ่มงบประมาณกลาโหม 7.2% หรือ 1.78 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 8.38 ล้านล้านบาท) ท่ามกลางความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์ ตั้งแต่ประเด็นไต้หวัน ไปจนถึงสงครามยูเครน-รัสเซีย
กองทัพจีน แสดงความมุ่งมั่นจะเพิ่มความเข้มข้นของการฝึกซ้อมกำลังพล และการเตรียมพร้อมสู้รบรอบด้าน เร่งการเปลี่ยนผ่านและยกระดับการฝึกซ้อมทางการทหาร เสริมสร้างกองกำลังที่มีความสามารถทางการสู้รบแบบใหม่ กระตุ้นการเตรียมความพร้อมทางการทหารด้านต่างๆ และเพิ่มสมรรถนะ การเอาชนะสงครามอัจฉริยะและสารสนเทศ
แม้จีนจะมีนโยบาย “ชนะโดยไม่ต้องสู้รบ” แต่ถ้าโดนแทรกแซง ลิดรอน และข่มขู่ “กองทัพอัจฉริยะ” ก็พร้อมเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ทันที
