.จากกรณีที่มีภาพจากกล้องวงจรปิดจะเห็นคนร้ายขี่รถ จยย.แบบผู้ชายมาจอดที่หน้าร้านขายของชำแล้วเดินเข้ามาในร้านชักปืนออกมาจี้สองแม่ลูกซึ่งเป็นหญิงบังคับให้ถอดสร้อยคอและแหวน ใช้เวลาประมาณ 1 นาที โดยมีเด็กคนหนึ่งยืนเล่นโทรศัพท์อยู่เหตุการณ์ได้เดินหายเข้าไป ต่อมาได้ยินเสียงคนในบ้านตะโกนออกมาคนร้ายตกใจได้วิ่งออกไปขี่รถ จยย.ขี่หลบหนีไป
ซึ่งต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 6 พ.ค. 65 ร.ต.อ.อภิรัชฏ์ อดิเรกพูลลาภ รอง สว.(สอบสวน) สภ.แสนสุข ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้ปืนจี้ชิงทรัพย์ที่ บ้านเลขที่ 68 หมู่ 5 ต.เหมือง อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงรุดตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ. แสนสุข พบบ้านดังกล่าวเปิดเป็นร้านขายของชำ พบ น.ส.รสริน แพงไธสงค์ อายุ 43 ปี แม่และ น.ส.สุปรียา วัดเขียน อายุ 21 ปี ลูกสาว ซึ่งยืนอยู่ภายในร้านด้วยอาการตกใจพร้อมชี้ให้ดูตรงที่คนร้ายเดินเข้ามาชักปืนจี้บังคับให้ถอดสร้อยคอทองคำและแหวนเพชร โดยทั้งสองได้เผยว่า เห็นคนร้ายซึ่งจำได้ว่าเป็นลูกของคนบ้านใกล้เรือนเคียง ทราบดีว่าติดยาเสพติด ตนก็เคยช่วยเหลือมาหลายครั้งซึ่งเดินไปมา ทำให้ตอนได้บอกลูกสาวว่าให้ระวังไว้มันจะมาปล้นเราหรือเปล่า อยู่ๆมันก็เดินเข้ามา ใส่หมวกแก๊ปใส่เสื้อคลุมสวมแมท แต่ตนจำรอยสักที่มือได้ว่าเป็นคนนี้ชื่อนี้แน่นอน หลังจากที่ถอดสร้อยคอทองคำและแหวนให้แล้วคนร้ายกำลังจะบังคับให้ตนโอนเงินในบัญชีให้แต่หลานสาวคนเล็กได้ตกใจเห็นเหตุการณ์จึงวิ่งไปบอกปู่ และคนร้ายตกใจวิ่งหนีไป ส่วน ได้ทรัพย์สินที่คนร้านได้ไปมีสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 บาท จี้ ร.5 เลี่ยมทอง แหวนทองคำ รวมประมาณ 1 แสนบาท ซึ่งตนจำได้ว่าคนร้ายชื่อ นายสุทธิสาร พิพิธกุล อายุ 35 ปี ที่เป็นลูกคนข้างบ้านนี่เอง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบและสอบสวนญาติแล้ว คาดว่าคนร้ายจะเป็นคนเดียวกับที่ผู้เสียหายได้อ้างจะได้ติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
คืบหน้าล่าสุดต่อมาเวลา 10.30 น.วันที่ 10 พ.ค.65 พ.ต.อ.พัฒนา รอบรู้ ผกก.สภ.แสนสุข และชุดสืบสวนได้นำนายสุทธิสาร พิพิธกุล อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับนำมาทำแผนที่นำทองคำมาจำนำไว้ที่ห้างทองกรุงเทพเยาวราชภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเขต อ.เมืองชลบุรี หลังจับกุมได้ที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยนายสุทธิสาร ได้นำมาจำนำไว้ในราคา 53,000 บาทจึงได้ทำการไถ่ทองใว้เพื่อมาทำแผนและจะมีการแถลงข่าวอีกครั้งในเวลา 13.00 น.วันนี้ที่ สภ.แสนสุขอีกครั้ง
ซึ่งจากการสอบถามผู้ก่อเหตุได้บอกเพียงว่าตนได้ก่อเหตุจริงแต่เพื่อจะนำเงินมาใช้จ่ายส่วนตัวเท่านั้นและไม่ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวในคำถามอื่นๆเอาแค่ก้มหน้าเงียบ