กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจน้ำ ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ม่วง รอผบช.ก., พล.ต.ต.เศรษฐสิริ นิพภยะ ผบก.รน., พ.ต.อ.วัลลพ พวงผกา รอง ผบก.รน., พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รอง ผบก.รน,พ.ต.อ.นิรัตน์ ช่วยจิตต์ รอง ผบก.รน., พ.ต.อ.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น ผกก.8 บก.รน., พ.ต.ท.นันทวุฒิ อภิบาลศรี รอง ผกก.8 บก.รน.,พ.ต.ท.ศรัณย์วิทย์ ฐีระเวช รอง ผกก.8 บก.รน. พ.ต.ท.วิษณุ จินาวงษ์ สว.ส.รน.3 กก.8 บก.รน และว่าที่ ร.ต.ต.กองคลัง ธรรมเมธาพร รอง สว.(ทนท.ทางน้ำ) ส.รน.3 กก.8 บก.รน. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและข้าราชการตำรวจในสังกัด ส.รน 3 กก.8 บก.รน. ออกตรวจระดมปราบปรามอาชญากรรมในเขตพื้นที่รับผิดชอบ บริเวณชายหาดอ่าวปอ ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.วิษณุ จินาวงษ์ สว.ส.รน.3 กก.8 บก.รน., ว่าที่ ร.ต.ต.กองคลัง ธรรมเมธาพร รอง สว.(ทนท.ทางน้ำ) ส.รน.3 กก.8 บก.รน., ด.ต.สุธรรม บัวแก้ว ผบ.หมู่ ส.รน.3 กก.8 บก.รน.,ด.ต.ทักษิณ กาฬสุวรรณ ผบ.หมู่ ส.รน.3 กก.8 บก.รน., ส.ต.อ.เกียรติพงษ์ หยงสตาร์ ผบ.หมู่ ส.รน.3 กก.8 บก.รน.,ส.ต.อ.เจษฎาพร สินโน ผบ.หมู่ ส.รน.3 กก.8 บก.รน.
ร่วมกันจับกุม
1.นายมูฮัมหมัดนูรมาล ฯ อายุ 20 ปี
2.นายสมเกียรติ ฯ อายุ 63 ปี
3.นายสราวุฒิ ฯ อายุ 26 ปี
4.นายสุธินันท์ ฯ อายุ 24 ปี
5.นายอับดุลฮามิ ฯ อายุ 22 ปี
พร้อมตรวจยึดของกลาง
1.เรือเจ็ทสกี ไม่มีชื่อ ไม่มีหมายเลขทะเบียน ตัวเรือสีฟ้าขาว-เบาะสีฟ้า จำนวน 1 ลำ
2.เรือเจ็ทสกี ไม่มีชื่อ ไม่มีหมายเลขทะเบียน ตัวเรือสีฟ้าขาว-เบาะสีฟ้า จำนวน 1 ลำ
3.เรือเจ็ทสกี ไม่มีชื่อ ไม่มีหมายเลขทะเบียน ตัวเรือสีฟ้าขาว-เบาะสีดำ จำนวน 1 ลำ
4.เรือเจ็ทสกี ไม่มีชื่อ ไม่มีหมายเลขทะเบียน ตัวเรือสีฟ้าขาว-เบาะสีน้ำเงินฟ้า จำนวน 1 ลำ
5.เรือเจ็ทสกี ไม่มีหมายเลขทะเบียน ตัวเรือสีขาว-ฟ้า เบาะสีขาว จำนวน 1 ลำ
6.เรือเจ็ทสกี ไม่มีหมายเลขทะเบียน ตัวเรือสี ขาว -ฟ้า เบาะสีขาว จำนวน 1 ลำ
7.เรือเจ็ทสกี ไม่มีหมายเลขทะเบียน ตัวเรือสี ขาว -ฟ้า เบาะสีขาว จำนวน 1 ลำ
8.เรือเจ็ทสกี ไม่มีหมายเลขทะเบียน ตัวเรือสีขาว-ฟ้า เบาะสีขาว จำนวน 1 ลำ
9.เรือเจ็ทสกี ไม่มีหมายเลขทะเบียน ตัวเรือสีฟ้า-ขาว จำนวน 1 ลำ
10.เรือเจ็ทสกี ไม่มีหมายเลขทะเบียน ตัวเรือสีเขียว-ขาว จำนวน 1 ลำ
11.เรือเจ็ทสกี ไม่มีหมายเลขทะเบียน ตัวเรือสีเขียว-ขาว จำนวน 1 ลำ
12.เรือเจ็ทสกี ไม่มีหมายเลขทะเบียน ตัวเรือสีน้ำเงิน-ขาว จำนวน 1 ลำ
13.เรือเจ็ทสกี ไม่มีหมายเลขทะเบียน ตัวเรือสีเทา-ขาว จำนวน 1 ลำ
14.เรือเจ็ทสกี ไม่มีชื่อ ไม่มีหมายเลขทะเบียน ตัวเรือสีน้ำเงิน-เทา เบาะสีดำ จำนวน 1 ลำ
15.เรือเจ็ทสกี ไม่มีชื่อ ไม่มีหมายเลขทะเบียน ตัวเรือสีเขียว-ขาว จำนวน 1 ลำ
16.เรือเจ็ทสกี ไม่มีชื่อ ไม่มีหมายเลขทะเบียน ตัวเรือสีเทา-ขาว จำนวน 1 ลำ
17.เรือเจ็ทสกี ไม่มีหมายเลขทะเบียน ตัวเรือสีฟ้า-ขาว จำนวน 1 ลำ
18.เรือเจ็ทสกี ติดสติ๊กเกอร์ ไม่มีหมายเลขทะเบียน ตัวเรือสีฟ้า-ขาว จำนวน 1 ลำ
สถานที่จับกุม บริเวณชายหาดอ่าวปอ ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนำโดย นำโดย พ.ต.ท.วิษณุ จินาวงษ์ สว.ส.รน.3 กก.8 บก.รน. และว่าที่ ร.ต.ต.กองคลัง ธรรมเมธาพร รอง สว.(ทนท.ทางน้ำ) ส.รน.3 กก.8 บก.รน. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ส.รน.3 กก.8 บก. ออกตรวจระดมปราบปรามอาชญากรรมในเขตพื้นที่รับผิดชอบ บริเวณชายหาดอ่าวปอ ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ก่อนจะได้พบเรือเจ็ทสกี ไม่มีชื่อ ไม่มีหมายเลขทะเบียน จำนวน 18 ลำ โดยมี ผู้ต้องหาทั้งหมด (ตามรายการข้างต้น) เป็นผู้ใช้เรือและกำลังรอที่จะนำเรือไปให้บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งมีท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและขอตรวจเอกสารเรือที่เกี่ยวข้อง โดยก่อนทำการตรวจเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้ ผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ดูจนเป็นที่พอใจแล้ว จึงเริ่มทำการตรวจสอบ
ผลการตรวจสอบปรากฏว่า ผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ไม่สามารถนำใบอนุญาตใช้เรือมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้และผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ยอมรับว่า เรือของกลางลำดังกล่าวยังมิได้รับใบอนุญาตใช้เรือ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแจ้งข้อหาว่า “ ใช้เรือก่อนได้รับใบอนุญาตใช้เรือ มาตรา 9 พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2481 แก้ไขเพิ่มเติม โดย มาตรา 60 พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2535 ” พร้อมทั้งแจ้งสิทธิ ให้ผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ทราบเข้าใจดีแล้ว ก่อนควบคุมตัวทั้ง 5 ราย ไปยัง ส.รน.3 กก.8 บก.รน. เพื่อจัดทำบันทึกจับกุมและส่งพนักงานสอบสวน สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย รับสารภาพ
ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.วิษณุ จินาวงษ์ สว.ส.รน.3 กก.8 บก.รน. หมายเลขโทรศัพท์ 093 626 2629
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชนให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”
