ต่อมาเมื่อช่วงบ่าย มีรายงานข่าวระบุออกมาว่า คณะพนักงานสอบสวนพิจารณาอนุญาตให้ประกันตัวพระจำนงค์ ธัมมจารี หรืออดีตพระพรหมเมธี ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฟอกเงินจากกรณีเงินทอนวัด หลังจากเดินทางกลับถึงประเทศไทยเพื่อกลับมาต่อสู้คดี หลังจากลี้ภัยอยู่ที่ประเทศเยอรมนีนานกว่าถึง 7 ปี
กระทั่งเวลา 14:00 ได้มีรถตู้ประมาณ 4-5 คัน จอดบริเวณด้านหน้าอาคารกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ก่อนที่จะมีพระสงฆ์จำนวนหนึ่งเดินลงมาจากอาคารแล้วเดินไปขึ้นรถทันที โดยพระสงฆ์เหล่านั้นไม่ได้พูดคุยในตอบคำถามอะไรกับสื่อมวลชน คาดว่าเป็นพระลูกศิษย์ของอดีตพระพรหมเมธีที่เดินทางกลับมาพร้อมกันจากประเทศเยอรมนี
ต่อมาช่วงเวลาประมาณ 14:30 มีรายงานข่าวว่า อดีตพระพรหมเมธีเตรียมจะเดินทางออกจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางบริเวณชั้นใต้ดิน สื่อมวลชนจึงได้ปักหลักเฝ้าสังเกตการณ์ พบว่ามีรถตู้ 2 คัน จอดอยู่ที่ชั้นใต้ดิน คันหนึ่งเป็นรถตู้สีดำจอดอยู่ฝั่งลิฟท์ High Zone อีกคันหนึ่งสีเทาจอดอยู่ฝั่งลิฟท์ Low Zone จึงทำให้สื่อมวลชนคอยปักหลักรอดูว่า อดีตพระพรหมเมธีจะขึ้นรถจากฝั่งไหน เพราะบริเวณรถตู้สีดำมีชายฉกรรจ์แต่งชุดสูทยืนรออยู่ จึงคาดกันว่า อดีตพระพรหมเมธีน่าจะขึ้นฝั่งรถตู้สีดำ
ปรากฏว่า อดีตพระพรหมเมธีพร้อมผู้ติดตามแต่งกายชุดสูท ได้ลงมาฝั่งลิฟท์ Low Zone เดินมาขึ้นรถตู้คันสีเทา ทำให้สื่อมวลชนต้องรีบวิ่งไปเก็บบันทึกภาพทันที โดยคณะผู้ติดตามได้พยายามนิมนต์เชิญอดีตพระพรหมเมธีขึ้นรถตู้คันดังกล่าวและรีบปิดประตูก่อนขับออกไปจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางทันที
เบื้องต้นมีรายงานข่าวจากแหล่งข่าวระดับสูงระบุว่า อดีตพระพรหมเมธีใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสดยื่นประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน เป็นจำนวนเงิน 400,000 บาท โดยไม่มีการกำหนดเงื่อนไขใด ๆ
ทั้งนี้ อดีตพระพรหมเมธีขอทำคำให้การเป็นเอกสารลายลักษณ์อักษรส่งมายังพนักงานสอบสวนในภายหลัง พร้อมรับปากกับพนักงานสอบสวนว่า จะรีบยื่นคำให้การให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้เข้าสู่กระบวนการต่อสู้คดีตามกฎหมาย แต่ยังไม่กำหนดวันยื่นคำให้การอย่างแน่ชัด
