“…หลังกระแสโซเชียลโพสต์ภาพสะเทือนใจ กรณีโค่นไม้ตะเคียนทองนับพันต้นในสวนป่าท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ล่าสุดจังหวัดสั่งตั้งคณะทำงานสอบข้อเท็จจริงทันที ด้าน วัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ผู้ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้มีการตรวจสอบกรณีนี้แต่ต้น ได้ออกโรงชื่นชมมาตรการของภาครัฐ พร้อมเรียกร้องให้ตรวจสอบเชิงลึกทั้งการประมูล การค้าขายไม้ และความเชื่อมโยงของ “ทุนจีน” ที่อาจเช่าพื้นที่ป่าของรัฐอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย…”
วันที่ 7 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้มีคำสั่งที่ 4711/2568 ลงนามโดย นายวิทศักดิ์ จำเริญนุสิต รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีเนื้อหาสำคัญคือการแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่มีการร้องเรียนและรายงานข่าวว่ามีการโค่นไม้ตะเคียนทองจำนวนมากในพื้นที่สวนป่าท่าชนะ และเปลี่ยนไปปลูกยูคาลิปตัสแทน


การร้องเรียนดังกล่าวเกิดขึ้นจากรายงานของ The Publisher และคลิปวิดีโอใน TikTok ของผู้ใช้ @Suebjarkthao ซึ่งเผยให้เห็นภาพตอไม้ตะเคียนจำนวนมากในพื้นที่สวนป่า พร้อมทั้งระบุว่ามีกลุ่มทุนต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีน เข้ามาเกี่ยวข้องกับโครงการปลูกป่ายูคาลิปตัส ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่บางส่วนมองว่าอาจกระทบสิ่งแวดล้อม และไม่เป็นธรรมต่อประชาชนในพื้นที่ ต่อมานายวัชระ เพชรทอง ได้นำเรื่องนี้ร้องต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรียกร้องให้เร่งดำเนินการตรวจสอบ กรณีตัดไม้สวนป่าตะเคียนทอง และ บริษัททุนจีนเช่าสวนป่าท่าชนะ-ปลูกยูคาฯจริงหรือไม่ ให้เกิดความกระจ่างต่อประชาชน ชี้เป็นความเสียหายของบ้านเมือง





เพื่อให้เกิดความโปร่งใส จังหวัดจึงได้แต่งตั้งคณะทำงานสอบสวนขึ้น โดยมี นายอำเภอท่าชนะ เป็นประธาน ร่วมด้วยตัวแทนจากหน่วยงานรัฐหลายฝ่าย อาทิ ผู้อำนวยการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด, สถานีตำรวจ, กอ.รมน., สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้, องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ภาคใต้ รวมทั้งตัวแทนภาคประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอีก 3 ราย
ภารกิจหลักของคณะทำงานประกอบด้วย
- ตรวจสอบความถูกต้องของการประมูลพื้นที่ปลูกไม้ โดยเฉพาะบริษัท 2 แห่ง ได้แก่
- บริษัท ค้าไม้ วังวิเศษ จำกัด ซึ่งดำเนินการปลูกไม้ยูคาลิปตัสและกระถินเทพา
- บริษัท เจซีเอส 7 จำกัด ซึ่งปลูกไม้ยูคาลิปตัส
ตรวจสอบว่าการดำเนินงานเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่
- ตรวจสอบกระบวนการตัดและจำหน่ายไม้ตะเคียนทอง ว่ามีการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของรัฐหรือไม่
- ตรวจสอบความเชื่อมโยงกับนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะจากประเทศจีน ว่ามีการถือหุ้น หรือมีอำนาจควบคุมในเชิงลึกหรือไม่
- เรียกหน่วยงานหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูล เพื่อประกอบการสอบสวน
- รายงานผลพร้อมหลักฐานต่อผู้ว่าราชการจังหวัดภายใน 30 วันทำการ


*** วัชระ เพชรทอง ชี้เป็นก้าวแรกที่ถูกต้อง พร้อมฝากข้อเสนอเพิ่ม
ด้าน นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาแสดงความชื่นชมต่อจังหวัดสุราษฎร์ธานีผ่านสื่อมวลชน โดยระบุว่า
“ผมต้องขอขอบคุณทางจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่เห็นความสำคัญของเรื่องนี้ และตอบสนองเสียงเรียกร้องของประชาชนอย่างรวดเร็ว การตั้งคณะกรรมการสอบสวนคือก้าวแรกที่ถูกต้อง แต่ผมอยากเสนอให้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดถึงขั้นการอนุญาต การประมูล รวมถึงความสัมพันธ์เชิงผลประโยชน์ของกลุ่มทุนต่างชาติ โดยเฉพาะที่ถูกกล่าวถึงว่ามี ‘ทุนจีน’ เกี่ยวข้อง”

“ไม้ตะเคียนทองเป็นสมบัติของชาติ ไม่ใช่ทรัพย์สินที่ใครจะมาตัดไปปลูกไม้ยูคาลิปตัสเพื่อขายผลประโยชน์เพียงอย่างเดียวได้ โดยไม่คำนึงถึงระบบนิเวศและชุมชนในพื้นที่”
คณะทำงานมีเวลาเพียง 30 วันในการคลี่คลายข้อเท็จจริงที่สังคมกำลังตั้งคำถามอย่างเคร่งเครียด ขณะที่หลายฝ่ายจับตาว่า คดีนี้จะสะท้อนให้เห็นกลไกตรวจสอบการใช้ประโยชน์ป่าไม้ของรัฐได้โปร่งใสแค่ไหน และจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการบริหารจัดการป่าในระยะยาวหรือไม่