เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ที่สำนักงานประสานงานชายแดนไทย – กัมพูชา โดยพ.อ.ปฏิวัติ เฟื่องประภัสสร์ รองผู้บัญชาการกองกำลังบูรพาในฐานะ รองหัวหน้าสำนักงานประสานงานชายแดนไทย – กัมพูชา กองทัพภาคที่ 1 ร่วมหารรือกับ พล.ท.เป็จ วันนา หัวหน้าสำนังานประสานงานชายแดนกัมพูชา – ไทย และนายเกียรติ ฮุน ผู้ว่าการกรุงปอยเปต กัมพูชา ในกรณีกรุงปอยเปรต โดยผู้ว่ากรุงปอยเปต ขอให้ สำนักงานประสานงานชายแดนกัมพูชา-ไทย (ฝั่งกัมพูชา) ประสานมายัง สำนักงานประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา(ฝั่งไทย) เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่าย ร่วมประชุมหารือและแก้ไขปัญหาร่วมกัน ที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต
ตามที่ได้มีกการเปลี่ยนแปลงเวลาผ่านแดนในจุดผ่านแดนที่กองกำลังบูรพารับผิดชอบ คือมีการปรับเวลาในการเปิด-ปิด จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก เป็นเวลา 08.00 น.-16.00 น.นั้น ทำให้เกิดผลกระทบ ในการเดินทางไปโรงเรียน ของเด็กนักเรียนชาวกัมพูชา ที่พักอาศัยอยู่ฝั่งไทยที่ต้องข้ามไปเรียนที่ฝั่งกัมพูชา/เด็กนักเรียนชาวกัมพูชา ที่ข้ามมาเรียนฝั่งไทยในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว รองผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา จึงได้นำเรียนปัญหาดังกล่าให้ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา
ได้รับทราบ
โดยผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา จึงได้อนุมัติให้มีแนวทางการปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยช่วงเช้าจะเปิดช่องทางสำหรับบุคคลให้ผ่านข้ามแดนตั้งแต่เวลา 06.00 น.-08.00 น. และช่วงเย็น ตั้งแต่เวลา 17.00 น.-18.00 น.ซึ่งจะให้ผ่านได้เฉพาะนักเรียนเท่านั้น
จากการร่วมหารือฝ่ายกัมพูชา รู้สึกยินดีที่ฝ่ายไทยได้รับทราบปัญหาและช่วยในการแก้ไขปัญหา เพื่อให้เด็กนักเรียนชาวกัมพูชาได้สามารถไปเรียนได้ตามปกติ และลดความตึงเครียดบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก-ปอยเปต ได้เป็นอย่างดี ซึ่งในการหารือครั้งนี้ ผู้ว่ากรุงปอยเปต รู้สึกหมดกังวลและยินดีที่ฝ่ายไทยเล็งเห็นถึงการเรียนของเด็กนักเรียนกัมพูชาเป็นสิ่งแรก และไม่ปฏิเสธการขอความร่วมมือในครั้งนี้ ส่งผลต่อภาพความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันในช่วงเวลาที่ไม่ปกติในห้วงนี้



