วันศุกร์, มิถุนายน 13, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมผู้เสียหายแห่ร้องกองปราบฯ หลังถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกฉ้อโกงรถยนต์ เสียหายหลายสิบล้าน

Related Posts

ผู้เสียหายแห่ร้องกองปราบฯ หลังถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกฉ้อโกงรถยนต์ เสียหายหลายสิบล้าน

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 11 มิ.ย.68 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนน พหลโยธิน เขตจตุจักร กทม.กลุ่มผู้เสียหายเกือบ 20 ราย ซึ่งถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกฉ้อโกงรถยนต์ รวมตัวเดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว หลังพบว่ามีการฉ้อโกงในลักษณะเดียวกันและผู้เสียหายหลายรายยังต้องเผชิญกับภาระหนี้สินและความกดดันอย่างหนัก

คุณปราง (สงวนนามสกุล) อาชีพธุรกิจส่วนตัว หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เหตุการณ์เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปี 2568 โดยกลุ่มผู้เสียหายมีความต้องการที่จะขายรถยนต์ของตน โดยการเปลี่ยนสัญญากับไฟแนนท์แบบถูกต้อง จึงได้เข้าไปค้นหาผู้รับซื้อรถมือ 2 ในกลุ่มซื้อขายรถมือสองออนไลน์ จากนั้นเห็นกลุ่มมิจฉาชีพโพสต์ รับซื้อรถพอดี จึงเข้ามาติดต่ออ้างว่าพร้อมซื้อและโอนเงินให้ทันที เมื่อนัดดูรถ มิจฉาชีพจะแสดงความพึงพอใจในรถเป็นอย่างมากและขอวางเงินมัดจำเพียงบางส่วน โดยอ้างว่าเงินยังไม่พอ และขอเอารถไปใช้งานก่อน โดยให้สัญญาว่าจะมาทำเรื่องเปลี่ยนสัญญาโอนรถในเดือนถัดไป

“หลังจากได้รถไปแล้ว กลุ่มมิจฉาชีพก็จะตัดสัญญาณและขาดการติดต่อไปในที่สุด” คุณปรางกล่าว พร้อมเสริมว่า ผู้เสียหายบางรายถึงกับพบว่ารถของตัวเองถูกถอดพวงมาลัยและนำไปขายในเพจฝั่งประเทศลาว กลุ่มผู้เสียหายที่รวมตัวกันได้ในขณะนี้มีถึง 20 ราย ซึ่งทั้งหมดถูกหลอกลวงด้วยกลโกงเดียวกันนี้ และรถถูกนำไปขายต่อทันที

ผู้เสียหายหลายรายแสดงความกังวลว่าช่องโหว่ทางกฎหมายจะทำให้คนร้ายลอยนวลได้ เนื่องจากคดีลักษณะนี้มักถูกมองว่าเป็นคดีแพ่งและตำรวจส่วนใหญ่ไม่ค่อยออกหมายจับให้ ซึ่งทำให้ผู้เสียหายไม่สามารถติดตามรถคืนได้และต้องแบกรับภาระหนี้สินจากไฟแนนซ์

ปัจจุบัน มีมิจฉาชีพถูกจับกุมได้แล้ว 1 ราย ทราบชื่อคือนางชัชชญา (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นผู้ทำสัญญาซื้อขายรถกับผู้เสียหายรายหนึ่ง และขณะนี้ถูกส่งตัวไปศาลแขวงระยองในคดียักยอกทรัพย์ แต่ผู้เสียหายกลับเกรงว่านางชัชชญา อาจจะรอดพ้นความผิดเช่นเดียวกับทุกครั้งที่ผ่านมา

“พวกเราออกมาเรียกร้องให้ตำรวจกองปราบปราบ รับทำคดีนี้ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ซึ่งพฤติกรรมของมิจฉาชีพกลุ่มนี้จะเปิดเพจหลอกเหยื่อไปเรื่อยๆ มีหน้าม้าเข้ามาชักชวนพูดคุยหว่านล้อมให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ แบ่งกันทำงานเป็นขบวนการ สลับซักซ้อน มีผู้เสียหายจำนวนมาก เกิดหลายท้องที่ ซึ่งตำรวจท้องที่จะไม่มองข้ามเห็นว่าเป็นคดีแพ่ง เพราะผู้เสียหายไม่ใช่เจ้าของที่เป็นชื่อไฟแนนซ์ ถ้าตำรวจกองปราบฯ ทำคดีเชื่อว่าจะนำไปสู่การอายัดการประกันตัวของคนร้ายได้ และติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการอื่นมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้แน่นอน“
คุณปรางกล่าว “เหยื่อหลายคนต้องตกอยู่ในความกดดันอย่างหนัก ทั้งจากไฟแนนซ์และจากการที่ตามหารถไม่เจอ จนถึงขั้นมีความคิดที่จะฆ่าตัวตายมาแล้วหลายราย”

นางณัฐ นามสมมุติ อายุ 57 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนต้องการขายรถกระบะ โตโยต้ารุ่น ไฮลักซ์รีโว่ 3 ฒย925 กทม. ราคา 620,000 บาท ที่ผ่อนไฟแนนซ์มาได้ 1 ปี ซึ่งผ่อนต่อไม่ไหว จึงเข้าไปค้นหาในเพจกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ“ผ่อนต่อไม่ไหว” ก่อนจะมีคนใช้บัญชี“ทรงเอแต่มีแดก“ อินบล็อคติดต่อมาและแอดไลน์คุยกันเมื่อ 2 เม.ย.68 ก่อนจะมีนางณัชชชญา ติดต่อมาดูและซื้อรถ ตกลงกันว่าจะซื้อและผ่อนค่างวดรถทุกวันที่ 5 ของเดือนงวดละ 5,765 บาท จนครบสัญญาปรับโครงสร้าง เดือน ส.ค.68 จึงสามารถเปลี่ยนผู้เช่าซื้อได้ โดยจ่ายเงินให้ก้อนแรกจำนวน 50,000 บาท พร้อมกับขอนำรถไปใช้งานก่อนแต่ปรากฏว่าหลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อนางณัชชญาได้อีกเลย จึงไปแจ้งความไว้ที่สน. อุดมสุขเมื่อ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts