เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. วันนี้ ( 21 มิถุนายน 2568 ) ศูนย์วิทยุแจ้งเหตุหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตจากสาเหตุถูกรถปั้นจั่นทับ ที่บริเวณที่พักคนงาน ริมถนนสายหนองแขวะ-ท่าเรือแหลมฉบัง หมู่ 4 ตำบลบึง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี จึงประสาน พ.ต.ท.กองพล เตชะคำภู สารวัตรสอบสวน สภ.หนองขาม และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา เข้าร่วมตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุบริเวณที่จอดรถงานก่อสร้าง พบรถบรรทุกเทรลเลอร์ยี่ห้อ ฮีโน่ หัวสีน้ำตาลเข้มจอดอยู่ โดยท้ายรถบรรทุกรถปั่นจั่นล้อตีนตะขาบ ไว้ใช้สำหรับตอกเสาเข็มอยู่ด้านหลังรถ โดยพบร่างผู้เสียชีวิตนอนคว่ำหน้าอยู่บริเวณสะพานเหล็กทางขึ้นท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ ในสภาพขาขวาถูกทับจนแหลกเหลว ลำตัวและหน้ามีร่องรอยการถูกล้อเหล็กตีนตะขาบทับจนเละ มีเลือดไหลนองพื้น ทราบชื่อต่อมาคือ นายอิทธิพล จิตกระวาด อายุ 44 ปี เป็นคนอำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำงานเป็นคนงานก่อสร้างในแคมป์ที่เกิดเหตุ โดยมีเพื่อน ๆ คนงานยืนดูเหตุการณ์ด้วยความเศร้าสลด
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุที่บริเวณล้อตีนตะขาบของรถปั่นจั่นพบรอยเลือดของผู้เสียชีวิตติดอยู่ที่ล้อ ส่วนบริเวณท้ายรถซึ่งเป็นสะพานทางขึ้นท้ายรถพบรอยเลือดไหลกองจากด้านบนไหลลงมาเป็นทางยาว และพบรองเท้าแตะของผู้เสียชีวิตติดอยู่บริเวณซอกเหล็กของสะพานขึ้นท้ายรถอีกด้วย จากการสอบถาม นายพเยาว์ ไชยคีนี อายุ 41 ปี เพื่อนคนงานที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุคนงานกำลังนำรถปั่นจั่นขึ้นรถบรรทุกเทรลเลอร์อยู่นั้น ตนเห็นเพื่อนคนงานกำลังขับรถปั่นจั่นขึ้นท้ายรถ โดยมีนายอิทธิพล (ผู้เสียชีวิต) ยืนบอกไลน์ให้รถปั่นจั่นขับขึ้นไปอยู่นั้น ตนเองจึงหันมาจะกินข้าวเหนียวไก่ย่างอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ก็หันไปเห็นนายอิทธิพลถูกล้อเหล็กตีนตะขาบของรถปั่นจั่นทับตัวอยู่ท้ายรถแล้ว จึงรีบวิ่งไปบอกคนขับรถปั่นจั่นให้หยุด แต่เนื่องจากเสียงเครื่องยนต์ของรถปั่นจั่นมีเสียงดังมาก จึงทำให้คนขับไม่ได้ยิน จึงทับผ่านร่างนายอิทธิพลไปทั้งตัว จึงทำให้นายอิทธิพลเสียชีวิตในทันที
ด้าน นางสาววันทนา บุญคุ้ม อายุ 29 ปี เพื่อนคนงานอีกคน เปิดเผยว่า ตอนเกิดเหตุแฟนตนเองเป็นคนขับรถปั่นจั่นขึ้นรถเทรลเลอร์ ซึ่งคนขับจะอยู่ด้านซ้ายของรถ กำลังจะขับขึ้นมา โดยมีนายอิทธิพล (ผู้เสียชีวิต) ยืนอยู่ด้านขวาของตัวรถบริเวณสะพานขึ้นท้ายรถเทรลเลอร์ เพื่อบอกระยะให้ล้อตีนตะขาบของรถปั่นจั่นให้ตรงกับสะพานขึ้น และรองเท้าของนายอิทธิพลน่าจะเข้าไปขัดกับช่องเหล็กสะพานขึ้นท้ายรถ ทำให้นายอิทธิพลล้มลง ซึ่งขณะนั้นคนขับรถปั้นจั่นมองไม่เห็นจึงเหยียบทับร่างนายอิทธิพล ซึ่งขณะนั้นมีเพื่อนร่วมงานยืนอยู่ท้ายรถประมาณ 2-3 คน แต่ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์เลย เพราะขณะนั้นเสียงเครื่องรถปั่นจั่นค่อนข้างจะดังมาก จึงทำให้คนขับไม่ได้ยิน ซึ่งจะเอารถปั้นจั่นไปหน้างานที่อำเภอเขาคันทรง ซึ่งตามปกติคนบอกระยะจะยืนอยู่บริเวณด้านบนของรถเทรลเลอร์ หรือไม่ก็ด้านล่างฝั่งคนขับรถปั้นจั่น แต่ครั้งนี้ไม่ทราบว่านายอิทธิพลขึ้นไปยืนบริเวณนั้นทำไม ซึ่งจะต้องยืนห่าง ๆ จากตัวรถด้วย
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ก่อนสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ในเบื้องต้น ก่อนจะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องไปให้ปากคำต่อที่ สภ.หนองขาม พร้อมมอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตส่งไปชันสูตรเบื้องต้นที่โรงพยาบาลแหลมฉบัง และดำเนินการตามกระบวนกฎหมายต่อไป
