“…ตำรวจด่างพร้อย “เป็นใหญ่” ได้ไง? ทั้งโดนสอบ ทั้งปล่อยให้มีการพนัน ปล่อยสถานบันเทิงผิดกฏหมาย ‘อัจฉริยะ’ แฉกลับตำรวจ…”
ในวันที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางไปยื่นเรื่องให้สำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัย ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจและคณะแพทย์ ที่ชันสูตรพลิกศพในคดีการเสียชีวิตของดาราสาว แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์
โดยนายอัจฉริยะ กล่าวว่า คดีนี้ แพทย์มีหน้าที่ชันสูตรพลิกศพ แต่ไม่มีหน้าที่นำร่างของแตงโม ไปจำลองเหตุการณ์เพื่อเทียบเคียงบาดแผลที่พบบนร่างกับใบพัดเรือ ดังนั้น จึงต้องการความชัดเจนว่า แพทย์ชันสูตรพลิกศพนำร่างของแตงโม ออกมาจำลองเหตุการณ์ตามคำสั่งของใคร ซึ่งตนเองมองว่าแพทย์ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ แต่เมื่อแพทย์ออกมายืนยันว่า บาดแผลที่พบตามร่างกาย เข้ากับใบพัดเรือได้ จึงไม่น่าเป็นไปได้
ซึ่งในประเด็นนี้ทนายความและแม่ของแตงโม ก็ยืนยันแล้วว่า ไม่เคยรับทราบจากเจ้าหน้าที่ว่าจะนำร่างของแตงโม ออกมาจำลองกับใบพัดเรือ
ส่วนประเด็นที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ชุดที่มี พลตำรวจเอกมนตรี ยิ้มแย้ม ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการตรวจสอบนั้น โดยมีการเรียก 4 นายตำรวจของตำรวจภูธรภาค1 ในชุดคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งประกอบไปด้วย พลตำรวจโท จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 , พลตำรวจตรี วสันต์ เตซะอัครเกษม ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 , พลตำรวจตรี ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี และ พันตำรวจเอก จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี มาให้ข้อมูลข้อเท็จจริง ตามที่นายอัจฉริยะ ได้ยื่นเรื่องให้จเรตำรวจ ตรวจสอบการทำงานของคณะทำงานสืบสวนสอบสวนคดีแตงโม ที่ไม่ได้ปฏิบัติไปตามขั้นตอนที่ถูกต้อง และมีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ รวมถึงตำรวจไม่มีการรวบรวมพยานหลักฐานเท่าที่สามารถกระทำได้ ตลอดจนนำพยานหลักฐานอันเป็นเท็จเข้าสู่สำนวนคดี รวมทั้งไม่ทำคดีการชันสูตรพลิกศพการเสียชีวิต และ ไม่ตรวจสอบสารเสพติดในกลุ่มของผู้ที่ก่อเหตุ
ทั้งนี้ นายอัจฉริยะ มั่นใจว่า นายตำรวจทั้ง 4 นาย มีพฤติกรรมความผิดเข้าข่ายการนำข้อมูลหลักฐานอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จากการนำภาพเท็จมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยเฉพาะ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ซึ่งถือว่าเป็นผู้รับผิดชอบสำนวนการสอบสวนคดีแตงโมโดยตรง
ส่วนพยานหลักฐานเพิ่มเติม เช่น เรือสปีดโบ๊ท จำนวน 2 ลำ ที่ร่วมก่อเหตุคดีแตงโม ที่เคยยื่นข้อมูลให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ไปแล้ว นายอัจฉริยะ ระบุว่า สัปดาห์หน้าจะนำหลักฐานเพิ่มเติมไปยื่นให้กับพนักงานสอบสวนอีกครั้ง แต่เบื้องต้นให้ข้อมูลได้ว่า เรืออีกลำ ถูกนำไปแยกชิ้นส่วนในจังหวัดชลบุรี แล้วมีความผิดแน่นอน
ส่วนที่ผ่านมา ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ยังแจ้งความดำเนินคดีกับตนเอง แต่ก็ไม่กังวล เพราะมั่นใจในพยานหลักฐาน และเตรียมทนายความไว้ต่อสู้คดีแล้ว
“เขาเคยถูกตั้งกรรมการสอบเรื่องโควิดที่อยุธยา ของเก่ายังไม่จบเลย ประเด็นที่2 คือปล่อยให้พื้นที่นนทบุรีมีบ่อนการพนัน สถานบันเทิงผิดกฎหมาย มีของเถื่อนเต็มพื้นที่ เรื่องที่3 คือเป็นผู้กำกับที่ต้องทำหน้าที่ที่ต้องควบคุมดูแลพนักงานสอบสวน ชุดสืบสวน สอบสวนของสภ.อ.เมืองนนทบุรี แต่กลับปล่อยให้ไม่มีการอายัดเรือ ปล่อยให้มีการสร้างพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ หลายเรื่องทางชมรมฯมีหลักฐานครบถ้วนอยู่แล้ว” นายอัจฉริยะ กล่าว
