เวลา 16.00 น. วันที่ 8 สิงหาคม 2568 ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง พันตำรวจเอกเอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนคดีหมอบี เปิดบัญชีรับบริจาคในนามวัดพระบาทน้ำพุ ว่า คดีนี้เริ่มมีการร้องเรียนให้กองปราบตรวจสอบตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ล่าสุดมีการสอบปากคำพยานคนสนิทของหมอบี ซึ่งไม่ใช่เลขาส่วนตัว แต่เป็นผู้เคยทำกิจกรรมจิตอาสาร่วมกันมานาน โดยถือเป็นพยานสำคัญในอนาคต
รองเอนก ระบุว่า ตำรวจได้สอบปากคำไวยาวัจกรณ์ เจ้าอาวาส และบุคคลที่เกี่ยวข้องภายในวัด เบื้องต้นไปแล้ว พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานทั้งเอกสารและบุคคล
อย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ทิศทางการสืบสวนชัดเจนขึ้น โดยพบความผิดปกติในบัญชีธนาคารชื่อ “ใจฟ้าอาทรประชานาถ” ซึ่งเปิดตั้งแต่ปี 2562 มีเงินจำนวนมากไหลเข้าก่อนที่หมอบีจะให้คนสนิทเบิกออกมาเป็นเงินสดครั้งละหลักแสนถึงหลักล้าน เพื่อนำไปให้หลวงพ่ออลงกตต่อ แต่ในแต่ละครั้งมียอดส่วนต่างที่หายไป ซึ่งตำรวจมีข้อมูลและบุคคลที่เกี่ยวข้องชัดเจนแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด
สำหรับกรณีที่หลวงพ่ออลงกตให้สัมภาษณ์ว่าหมอบีนำเงินส่วนต่างไปใช้ทำกิจกรรมจิตอาสา รองเอนกกล่าวว่า เป็นสิ่งที่ประชาชนสามารถตั้งข้อสังเกตได้ แต่ตำรวจต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดก่อน และยังอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะเชิญหลวงพ่อมาสอบปากคำหรือส่งเจ้าหน้าที่ไปสอบที่วัด
ในส่วนทรัพย์สินที่สังคมตั้งข้อสงสัย หมอบีอ้างว่า ได้นำเงินจากการปราบผีและธุรกิจกงสีของครอบครัวไปซื้อ แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ โดยพบว่าบ้านที่ซื้อเมื่อปี 2564 นั้นซื้อหลังจากเปิดบัญชีใจฟ้าฯ ที่เปิดเมื่อปี 2562 ซึ่งต้องตรวจสอบอย่างละเอียด
ปัจจุบันตำรวจมุ่งตรวจสอบเพียงบัญชีใจฟ้าฯ ในฐานะบัญชีหลักรับบริจาค พร้อมยืนยันว่ามีเส้นทางการเงินครบถ้วนแล้ว แต่หมอบีต้องชี้แจงเอกสารให้ชัดทุกยอดว่าเงินมาจากไหนและไปที่ใด ขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินคดีกับใคร แต่ทางวัดได้ส่งทนายลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ลพบุรีแล้ว
หากมีการดำเนินคดี รองเอนกยืนยันว่าจะเป็นผู้รับผิดชอบนำคดีเอง
รองเอนกทิ้งท้ายว่า คดีนี้ต้องมีคนผิดและคนถูกอย่างแน่นอน แต่ยังไม่กำหนดกรอบเวลาสรุปสำนวน เนื่องจากต้องตรวจสอบเส้นทางเงินบริจาคย้อนหลังตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งมีรายละเอียดจำนวนมาก





