ปปง. สรุปผลประชุมคณะกรรมการธุรกรรม 2 ครั้ง ยึด–อายัดทรัพย์กว่า 2,614 ล้านบาท ครอบคลุม 107 คดีทั่วประเทศ

“…สำนักงาน ปปง. แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 8/2568 และ 9/2568 มีมติยึดและอายัดทรัพย์สินรวม 3,031 รายการ ในคดีสำคัญ 107 คดี มูลค่ากว่า 2,614 ล้านบาท พร้อมมอบหมายเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สินเพิ่มเติมใน 86 คดี ครอบคลุมความผิดตั้งแต่การฉ้อโกงประชาชน การพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ จนถึงการลักลอบหนีศุลกากร…”

วันที่ 8 สิงหาคม 2568 นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และโฆษกประจำสำนักงาน ปปง. แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 8/2568 เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2568 และครั้งที่ 9/2568 เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 โดยมีนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. ทำหน้าที่กรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการธุรกรรมมีมติให้ดำเนินการกับทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับคดีความผิดมูลฐานหลายประเภท อาทิ ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ความผิดเกี่ยวกับการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และการลักลอบหนีศุลกากร เป็นต้น รวมผลการดำเนินการดังนี้

1. ยึดและอายัดทรัพย์สิน จำนวน 53 รายคดี รวม 1,515 รายการ มูลค่าประมาณ 1,271 ล้านบาท ครอบคลุมคดีสำคัญ เช่น
   1. คดีลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ (มูลค่าประมาณ 21 ล้านบาท)
   1. คดีขนเงินสดผ่านแดนเชื่อมโยงขบวนการค้ายาเสพติด (มูลค่าประมาณ 15 ล้านบาท)
   1. คดีฉ้อโกงระดมทุนโดยแอบอ้างกิจการโรงพยาบาล (มูลค่าประมาณ 362 ล้านบาท)
   1. คดีลักทรัพย์และยักยอกทรัพย์สิน รวมถึงกรณีการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ ซึ่งมีการดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์สินเพิ่มเติมรวมหลายร้อยรายการ
      
      
2. ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อให้มีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 21 รายคดี รวม 979 รายการ มูลค่าประมาณ 821 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับคดีการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์และการฉ้อโกงประชาชน
   
   
3. คุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย โดยส่งเรื่องให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนผู้เสียหายใน 33 รายคดี รวม 537 รายการ มูลค่าประมาณ 522 ล้านบาท ครอบคลุมคดีสำคัญ เช่น การยักยอกทรัพย์ของวัด การหลอกลวงชักชวนร่วมลงทุน และการฉ้อโกงในรูปแบบต่าง ๆ

ทั้งนี้ คณะกรรมการธุรกรรมได้มอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินเพิ่มเติมใน 86 รายคดี เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และคุ้มครองประโยชน์ของรัฐและประชาชนอย่างรอบด้าน