หลังจากนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือ หมอบี เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เมื่อวานนี้ พร้อมนำเอกสารเกี่ยวกับข้อมูลทางการเงิน มาชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องถูกร้องเรียนว่ามีพฤติกรรมฉ้อโกงเงินบริจาคนั้น
พันตำรวจเอกเอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยว่า เอกสารที่ หมอบี นำมาชี้แจงนั้นเป็นเอกสารที่เจ้าตัวทำขึ้นมา พยายามให้ถึงวัตถุประสงค์ในการเปิดบัญชีรับบริจาค และนำไปใช้อย่างไร ซึ่งต้องนำมาเปรียบเทียบกับเส้นทางการเงินจากธนาคาร หรือพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ อื่น ๆ เพิ่มเติม
แต่จากข้อมูลการสืบสวนเบื้องต้น ตำรวจพบความผิดปกติจากรายการบันทึกเงินรับบริจาคของวัด ไม่ตรงกับยอดที่เบิกบัญชีที่เปิดรับบริจาคของหมอบี อีกส่วนหนึ่งพบว่านำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ แต่แนวทางการสืบสวนต้องสืบทราบให้แน่ชัดว่าส่วนที่นำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์นั้น มีเจตนาทุจริตหรือนำไปใช่ส่วนตัวหรือไม่
ด้านนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ ได้นำเอกสารเข้ามาพูดคุยกับพันตำรวจเอกเอนก เพื่อหารือถึงแนวทางการดำเนินคดี หลังเข้าประชุมกันกับเจ้าอาวาสวัดพระบาทนำพุ คณะกรรมการวัด สำนักพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี ถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยเปิดเผยว่า จากที่หมอบีอ้างว่าเบิกเงินจากบัญชีที่เปิดรับบริจาค เป็นเงินสดให้กับเจ้าอาวาสนั้น ก็มีเจ้าหน้าที่ของวัดที่คอยทำบัญชีรายรับรายจ่ายอยู่ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน โดยตอนนี้ตัวเลขที่ไม่ตรงกันมีอยู่ 5.4 ล้านบาท ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติ
สำหรับข้อมูลทางการสอบสวน พนักงานสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งคนสนิทหมอบี และผู้เกี่ยวข้องกับบัญชีเงินของวัดพระบาทนำพุไปแล้ว 6 คน โดยคนสนิทหมอบีที่เดินทางเข้าพบตำรวจในวันนี้ ก็เป็นอีก 1 คน ที่ได้รับมอบอำนาจไปเบิกเงินจากบัญชีธนาคาร และยังมีอีก 1 คน ที่ได้เคยได้รับมอบอำนาจเช่นกัน ตำรวจอยู่ระหว่างติดต่อเข้ามาให้ข้อมูล ส่วนหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินการเอาผิดทางกฏหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องได้หรือไม่ ยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนเงินที่นำไปซื้อบ้านพักหรูมูลค่ากว่า 30 ล้านบาทนั้นอยู่ระหว่างตรวจสอบที่มาของรายได้ด้วยเช่นกัน
