“…ไฟการเมืองร้อนฉ่า! “วัชระ เพชรทอง” อดีต ส.ส. ปชป. เปิดศึกตรงถึง รมว.มหาดไทย จี้สอบ–โยกย้ายผู้ว่าฯ สุราษฎร์ฯ หลังถูกกล่าวหานิ่งดูดาย ปล่อยฟาร์มไก่ 50,000 ตัวที่ถูกสั่งปิดยังเปิดทำการต่อราวไม่กลัวกฎหมาย ส่งกลิ่นขี้ไก่เหม็นคลุ้ง ทรมานชาวบ้านเกาะสมุยจนต้องร้องขอความเป็นธรรม…”
วันที่ 13 สิงหาคม 2568 การเมืองสุราษฎร์สะเทือน เมื่อ “วัชระ เพชรทอง” อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ ส่งหนังสือด่วนถึง “นายภูมิธรรม เวชยชัย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน และพิจารณาโยกย้าย นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี
สาเหตุเกิดจากกรณีฟาร์มไก่ของบริษัท วิสาหกิจชุมชนภาวนาโพธิคุณ จำกัด ในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลหน้าเมือง อำเภอเกาะสมุย เลี้ยงไก่ไข่จำนวนมหาศาลกว่า 50,000 ตัว ก่อให้เกิดกลิ่นเหม็นรุนแรงจากมูลสัตว์ จนเทศบาลนครเกาะสมุยมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตตั้งแต่ 30 กรกฎาคม 2568 ตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับเป็นภาพตรงข้าม—แม้ครบกำหนดหยุดกิจการ ฟาร์มยังเดินเครื่องเต็มกำลัง ราวกับคำสั่งทางราชการไร้ค่า ขณะที่ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ฯ ถูกกล่าวหาว่าไม่ลงพื้นที่ตรวจสอบ ไม่บังคับใช้กฎหมาย และเพิกเฉยต่อเสียงร้องทุกข์ของประชาชน
นายวัชระชี้ว่า ปัญหานี้เป็น “เหตุเดือดร้อนเร่งด่วน” ที่ฝ่ายปกครองต้องจัดการทันที เพราะกลิ่นขี้ไก่ยังลอยคลุ้งทำให้ชาวบ้านต้องทนทุกข์ทุกวัน แต่กลับไม่มีการแก้ไขแม้เคยมีการร้องเรียนถึงปลัดกระทรวงมหาดไทยตั้งแต่ 30 กรกฎาคม 2568 พร้อมแนบเอกสารหลักฐานหลายชิ้น ทั้งสำเนาคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาต บันทึกข้อร้องเรียน และข่าวการตรวจสอบจากสื่อ
อดีต ส.ส. รายนี้ประกาศชัด ขอให้กระทรวงมหาดไทยแจ้งผลการดำเนินการภายใน 15 วัน มิฉะนั้นเรื่องนี้จะกลายเป็น “สัญลักษณ์” ของการเพิกเฉยต่อกฎหมาย และอาจบานปลายเป็นวิกฤตศรัทธาต่อระบบราชการทั้งระบบ
ไทม์ไลน์เหตุการณ์
ก่อน 24 กรกฎาคม 2568
-ชาวบ้านหมู่ 1 ต.หน้าเมือง อ.เกาะสมุย ร้องเรียนว่าฟาร์มไก่ไข่ของ บ.วิสาหกิจชุมชนภาวนาโพธิคุณ จำกัด เลี้ยงไก่กว่า 50,000 ตัว ส่งกลิ่นมูลสัตว์รุนแรง กระทบชีวิตประจำวันและสุขภาพ
24 กรกฎาคม 2568
-นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส. ปชป. ทำหนังสือถึงผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี ให้ตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมาย พร้อมสอบข้อเท็จจริง
-30 กรกฎาคม 2568
-สำนักงานเทศบาลนครเกาะสมุยออกคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการ ตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ. 2535 กำหนดให้หยุดกิจการทันที
-ในวันเดียวกัน นายวัชระทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงมหาดไทยเพื่อเร่งรัดแก้ไข
หลัง 30 กรกฎาคม 2568
-แม้ครบกำหนดหยุดกิจการ ฟาร์มยังเปิดดำเนินการต่อราวกับไม่มีคำสั่งใดเกิดขึ้น
-กลิ่นเหม็นยังรบกวนชาวบ้านทุกวัน
13 สิงหาคม 2568
-นายวัชระ ส่งหนังสือถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย รมว.มหาดไทย จี้สอบผู้ว่าฯ สุราษฎร์ฯ ฐานเพิกเฉย และขอโยกย้ายออกจากพื้นที่
ประเด็นที่สังคมต้องการคำตอบ
1.เหตุใดฟาร์มไก่จึงยังดำเนินกิจการได้ แม้มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตอย่างเป็นทางการ?
2.ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบหรือไม่? ถ้าไม่—เพราะเหตุใดจึงเพิกเฉยต่อปัญหาเร่งด่วนของประชาชน?
3.หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ทั้งในระดับจังหวัดและท้องถิ่น มีการประสานงานและติดตามผลหรือไม่ หรือมีการ “ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่”?
4.กลไกตรวจสอบของกระทรวงมหาดไทย มีประสิทธิภาพเพียงใด เมื่อแม้แต่คำสั่งทางการก็ถูกเมิน?
5.กรณีนี้สะท้อนว่า กฎหมายไทยอาจไร้น้ำหนัก หากผู้มีอำนาจในพื้นที่ไม่ขยับ—เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างหรือผลประโยชน์ทับซ้อน?
“นี่ไม่ใช่เพียงเรื่องกลิ่นขี้ไก่ แต่คือบทพิสูจน์ว่า คำสั่งของรัฐจะศักดิ์สิทธิ์ได้แค่ไหน…ถ้าผู้บังคับใช้กฎหมายไม่ลงมือ ใครจะเป็นคนปกป้องประชาชน? หรือเรากำลังอยู่ในสังคมที่กฎหมายมีไว้ให้บางคนกลัว—แต่บางคน…กลับหัวเราะเยาะ?”




#สืบจากข่าว รายงาน