“…ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ สำรวจพื้นที่สีเขียวเขตบางกอกใหญ่ ที่สวนบางกอกใหญ่ เพื่อพบปะพี่น้องประชาชน และสำรวจพื้นที่สีเขียวเขตบางกอกใหญ่ ที่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน และตอกย้ำการทำงานร่วมกันกับ สก.ได้ทุกคนและทุกพรรคในพื้นที่กรุงเทพมหานคร…”
เมื่อเวลา 06:00 น วันที่ 26 พฤษภาคม 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เดินทางไปที่ สวนบางกอกใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ ใกล้เคียงสถานีรถไฟฟ้า แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร เพื่อพบปะพี่น้องประชาชน และสำรวจพื้นที่สีเขียวเขตบางกอกใหญ่ ที่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน และตอกย้ำการทำงานร่วมกันกับ สก. ได้ทุกคนและทุกพรรคในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
โดย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้ทำการวิ่งรอบสวน 2 รอบ เพื่อสำรวจสวนก่อนที่จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ว่า ตนเองนั่นได้พบกับ สก. ในพื้นที่ ได้พบว่า สวนบางกอกใหญ่นี่ เป็นสวนสาธารณะแบบเล็กๆ จึงเดินทางมาดูด้วยตนเอง โดยตนจะประสานความร่วมมือกับ สก. ทางผู้อำนวยการเขต ลองหาพื้นที่รกร้างหรือของเอกชนที่ ปลูก กล้วย อ้อย เป็นสวนเกษตร เพื่อลดภาษีโรงเรือนนั่น ซึ่งสามารถให้กรุงเทพมหานคร นั้นเช่าและทำเป็นสวนสาธารณะ สร้างพื้นที่สีเขียวให้คนกรุงเทพฯ ได้ในส่วนของ สวนรายเขตนั่น เป็นเป้าหมายระยะยาว เป้าหมายสำคัญคือ กรุงเทพ 15 นาที คือคนกรุงเทพจะต้องเดินทางถึงสวนสาธารณะไม่เกิน 15 นาที ระยะทางไม่เกิน 800 เมตร ในส่วนนี้ 4 ปี คงทำไม่ได้หมด แต่ก็จะพยายามทำให้มากที่สุด แต่ในส่วนสวนสาธารณะที่ทำแล้ว ชุมชนใกล้สวนเองก็ต้องมีส่วนร่วมในการดูแล แล้วสวนจะหน้าดูมากขึ้น ในช่วงบ่ายตนจะเดินทางไปในเขตพื้นที่ดอนเมือง และ สายไหม โดยในสวนของดอนเมือง จะเข้าไปดูปัญหาน้ำท่วม ในส่วนของสายไหมก็จะไปไหว้หลวงพ่อที่วัดเกาะ ซึ่งได้รับปากไว้ สวนปัญหาขยะนั่น การที่เมืองนั่นขยายออกไปมาก คนเก็บกับอุปกรณ์เก็บยังเท่าเดิม ในส่วนกรุงเทพชั้นในจะไม่ค่อยมีปัญหา ในส่วนกรุงเทพชั้นนอกนั่นประชากรนั่นเพิ่มมากขึ้น เพราะฉะนั้นการเก็บขยะต้องมีการปรับการเก็บให้สอดคล้องกับปริมาณขยะในส่วนการลอกท่อระบายน้ำนั่นจะมีการประสานกับกรมราชฑันต์ เพื่อนำผู้ต้องหามาดำเนินการในส่วนนี้ ซึ่งก็ต้องมีการพูดคุยกับรัฐมนตรียุติธรรม ในส่วนนี้ เพราะผู้ต้องหาเองก็มีรายได้หลังพ้นโทษและในส่วนการทำงานนั่นประชาชนให้การยอมรับมากกว่าเอกชน ดำเนินการ ในส่วนของร้านค้าที่ปล่อยสิ่งปฏิกูลนั่น ก็ควรมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องนี้ หากไม่มีอุปกรณ์ คัดกรองก่อนปล่อยน้ำลงสู่ท่อระบายน้ำต่างๆ ซึ่งปัญหาเรานี้มักพบเจอเมื่อเปิดฝาท่อและเจอสิ่งอุดตัน
ในส่วนของทีมรองผู้ว่าและทีมที่ปรึกษา ตนจะคัดเลือกเอง ถือว่าไม่มีใครมากดดัน โดยจะแบ่งหลักๆเป็น 3 กลุ่ม 1 กลุ่ม รองผู้ว่าและเลขา 2 กลุ่มที่ปรึกษาทางการเมือง 3 กลุ่มที่ปรึกษาที่มาด้วยใจ จริงๆ จะเข้ามาร่วมกันทำงานในส่วนนี้ เพื่อให้200กว่านโยบายนั่นสำเร็จ