กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าทลายเครือข่ายลักลอบนำเข้าและจำหน่าย “แก๊สหัวเราะ” หรือ ไนตรัสออกไซด์ (Nitrous Oxide) ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยจับกุมวัยรุ่นชาวจีนและเวียดนามได้พร้อมของกลางจำนวนมาก
จากนโยบายของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ที่ต้องการปราบปรามสินค้าอันตรายที่เข้าถึงกลุ่มเด็กและเยาวชนได้ง่าย โดยตำรวจ บก.ปอศ. ได้รับเบาะแสว่ามีการลักลอบจำหน่ายแก๊สชนิดนี้ในหมู่กลุ่มปาร์ตี้วัยรุ่นชาวต่างชาติ ซึ่งมักอ้างว่าเป็นแก๊สสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร แต่แท้จริงแล้วผู้ซื้อจำนวนมากนำไปใช้ในทางที่ผิด ด้วยการสูดดมเพื่อให้เกิดอาการเคลิบเคลิ้มและหัวเราะอย่างผิดปกติ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างร้ายแรงต่อระบบประสาทและระบบทางเดินหายใจ และอาจทำให้เสียชีวิตได้
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอศ. ได้สืบสวนจนทราบว่าจะมีนัดส่งมอบสินค้ากันที่บริเวณลานจอดรถสนามฟุตบอลหญ้าเทียม แขวงจอมพล เขตจตุจักร จึงเฝ้าสังเกตการณ์จนพบรถเก๋งต้องสงสัยที่บรรทุกของมาเต็มท้ายรถ เมื่อเข้าตรวจสอบพบ นายยู้ ชาวจีน อายุ 30 ปี เป็นคนขับ และพบ แก๊สไนตรัสออกไซด์ จำนวนกว่า 50 กระบอก บรรจุอยู่เต็ม สอบสวนเบื้องต้นนายยู้รับสารภาพว่าเป็นลูกจ้างทำหน้าที่ขนส่งสินค้าตามคำสั่งของนายจ้างผ่านแอปพลิเคชัน Telegram และเพิ่งทำได้เพียง 1 เดือนก่อนจะถูกจับกุม
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลการจับกุมไปยังคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ แขวงห้วยขวาง หลังจากขอหมายค้นจากศาลอาญา พบ นางสาวถิฯ ชาวเวียดนาม อายุ 31 ปี เป็นผู้พักอาศัยและพบแก๊สไนตรัสออกไซด์อีก 12 กระบอก พร้อมทั้งกระบอกที่กำลังเปิดใช้ในขณะเข้าตรวจค้นถึง 3 กระบอก แม้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธว่ามีไว้เพื่อใช้เอง ไม่ได้จำหน่าย แต่เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
บก.ปอศ. ฝากเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยวให้ระมัดระวังอันตรายจาก “แก๊สหัวเราะ” เนื่องจากเป็นสารที่ทำลายระบบประสาทและอาจถึงแก่ชีวิตได้ จึงไม่ควรหลงเชื่อหรือทดลองใช้โดยเด็ดขาด นอกจากนี้ยังย้ำเตือนว่าการลักลอบนำเข้าหรือจำหน่ายสินค้าที่เลี่ยงภาษีก็มีบทลงโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอีกด้วย
การเผยแพร่ข่าวครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเตือนภัยสาธารณะให้ตระหนักถึงอันตรายที่แฝงมาในรูปแบบต่างๆ ทั้งนี้ผู้ต้องหาทุกคนยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด






