เมื่อเวลา 12.20 น.วัน 25 ส.ค.68 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บก.ป.) นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สส.บัญชีรายชื่อ และแกนนำพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. แจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ข้อหาหมิ่นประมาท หลังให้สัมภาษณ์ใส่ร้ายทางรายการทีวี ว่าทำให้ไทยเสียปราสาทเขาพระวิหาร โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชม.
ภายหลังให้ปากคำเสร็จนายนพดล กำลังจะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่รอทำข่าวด้านหน้าศูนย์รับแจ้งความฯ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าเวรรักษาความปลอดภัย เข้ามาห้ามไม่ใช้สัมภาษณ์ ทำให้สื่อฯ เชิญนายนพดลออกไปสัมภาษณ์ต่อที่บริเวณด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ติดถนนพหลโยธิน ทั้งที่เคยทำข้อตกลงกับ พล.ต.ท.จิรภพ ภูิริเดช ผบช.ก.เมื่อเดือน พ.ย.67 ว่ากรณีที่แหล่งข่าวมาแจ้งความกองปราบปราม สามารถให้สัมภาษณ์ได้ ณ บริเวณหน้าศูนย์ฯ แต่ขอหันกล้องออกไปด้านนอก ไม่ให้เห็นสัญลักษณ์ของ บช.ก. ทั้งหมดจึงต้องย้ายออกไปยืนแถลงด้านหน้า บช.ก.แทน
นายนพดล เปิดเผยว่า เรื่องนี้เริ่มจากนางมัลลิกา ได้ออกสัมภาษณ์สื่อ 2 ช่องดัง ในกรณีว่าตนทำประเทศไทยเสียดินแดนบริเวณปราสาทเขาพระวิหาร เป็นการให้ข้อมูลเท็จทำให้เกิดความเข้าใจผิด โดยศาลอาญาคดี แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ยกฟ้องแล้วว่าตนไม่ได้ทำให้เกิดการเสียดินเเดนในครั้งนั้น และไทยก็ได้ประโยชน์ นอกเหนือจากนั้นเป็นข้อมูลเท็จทั้งสิ้น
ซึ่งการเดินทางมา ที่ศูนย์รับแจ้งความบช.ก.ในวันนี้เพื่อดำเนินคดีกับ นางมัลลิกา ในฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยโฆษณา โดยเเยกความเป็นเป็น 2 กรรม ต่างกรรมต่างวาระ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าในอนาคตจะมีการดำเนินการยอมความในอนาคตหรือไม่ นายนพดล กล่าวยืนยันว่า การแจ้งความดำเนินคดีในครั้งนี้จะไม่มีการยอมความใดๆทั้งสิ้นและจะดำเนินการถึงที่สุด ซึ่งเงินทุกบาทที่ได้จากการฟ้องร้องในครั้งนี้จะมีการบริจาคให้ ช่วยเหลือคนปัญญาอ่อนต่อไป
ทั้งนี้ในวันนี้เนี่ยจะเป็นการแจ้งความกับนางมัลลิกา แต่เพียงผู้เดียว ยังไม่มีการเอาผิดสื่อที่นำไปเผยแพร่และอยากเตือนว่าหากมีผู้นำไปเผยแพร่ซ้ำอาจผิดกฎหมายได้ เราเป็นคนไทยด้วยกัน ขออย่าให้เชื่อข่าวปลอม














