รัฐสภา วันนี้ ( 17 ก.ย.) นายธนวัฒน์ ศรีสุข พร้อมกลุ่ม สว.สำรอง เดินทางมายื่นหนังสือกับพรรคเพื่อไทย พร้อมกล่าวว่า รู้สึกกังวลใจไม่สบายใจและห่วงใย ในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ที่ยังมีคดีเขากระโดงและการฮั๊วเลือก สว. ซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมและรัฐมนตรีหลายกระทรวงก็เปลี่ยนไป จึงไม่แน่ใจว่าจะมีการแทรกแซงเข้ามาในคดีหรือไม่ ประกอบกับได้ยินข่าวมาเมื่อ 2-3 วัน ว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ที่ออกไปสอบพยาน 1,200 ปาก ตามจังหวัดต่างๆ จองตั๋วเครื่องบินและโรงแรมต่างๆไว้หมดแล้ว แล้วมาเจอคำสั่งลึกลับจากมือที่มองไม่เห็น สั่งมาว่าทุกคนต้องกลับ ซึ่งใหญ่สามารถสั่งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้ วันนี้จึงมายื่นหนังสือให้พรรคเพื่อไทย ให้คอยสอดส่องดูแล ใช้กลไกทางสภาดำเนินการในเรื่องนี้ เพราะส่วนตัวคิดว่าคดีฮั๊ว สว. ไม่ใช่เป็นเพียงแค่คดีทุจริต แต่กระทบต่อความมั่นคง ที่พบว่ามีการจัดตั้งเครือข่ายเพื่อควบคุมอำนาจนิติบัญญัติ บริหาร น่าจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ เป็นขบวนการใหญ่ ทำให้กระบวนการตรวจสอบถูกครอบงำ
ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังรับหนังสือ กระบวนการฮั๊ว สว. เป็นกระบวนการใหญ่ระดับชาติ ที่มีคนรู้เห็นกระบวนการนี้ มีคนตั้งคำถามทั่วประเทศจากกระบวนการนี้ และวันนี้พรรคเพื่อไทยกำลังจะเป็นฝ่ายค้านแท้ ๆ พรรคเพื่อไทยยินดี และจับตามองอย่างใกล้ชิด ว่าผู้ที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาล มีความเกี่ยวข้อง ไม่เฉพาะเรื่องฮั๊ว สว. เรื่องเขากระโดง และยังมีเรื่องอื่นๆ ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะรับดำเนินการทั้งในช่องทางระบบรัฐสภา และการดำเนินการควบคู่กับภาคประชาชน
เมื่อถามถึงการอภิปรายนโยบายของรัฐบาลนายอนุสรณ์กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันทางการเมืองในการประชุม ทุกครั้งได้มีการปรึกษาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นว่ากันทำหน้าที่ฝ่ายค้านแท้อย่างเหมาะสมลงตัวจะเป็นอย่างไรในเรื่องการแถลงนโยบาย ในกลุ่มของพรรคก็ตั้งประเด็นว่าจะ เรื่องใดได้บ้าง เพราะใน Moa พรรคประชาชนที่พรรคประชาชนสนับสนุนไม่ได้ให้นายอนุทินมาบริหารประเทศ แต่ให้มายุบสภาดังนั้นหากเป็นไปตามกรอบนี้ก็ต้องอธิบายว่าไทม์ไลน์ในการยุบสภาเป็นอย่างไร เพราะถ้าจะไปอธิบายนโยบายจะผิดฝาผิดตัวหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามพรรคเพื่อไทยจะไม่ทำงานบนพื้นฐานของความแค้น หรือบนพื้นฐานความฝังใจในอดีตสามารถถ้ามันจะสามารถอภิปราย ข้อเสนอแนะในการแถลงนโยบายได้ก็พร้อมทำหน้าที่
“ ในบันทึกข้อตกลงเ MOA หรือการให้สัมภาษณ์ต่างกรรมต่างวาระต่างกรรมต่างวาระประชาชนของพรรคประชาชน บอกทุกครั้งเขาไม่ได้เลือกนายกฯที่เป็นคนเก่งเป็นคนดี ไม่ได้เลือกนายกฯ มาบริหารประเทศแต่เขาเลือกนายอนุทิน มาเพื่อยุบสภาดังนั้นไม่แน่ใจว่าการแถลงนโยบาย จะมีเรื่องอื่นนอกเหนือยุบสภาจะสามารถอภิปรายได้หรือไม่จึงจะให้ฝ่ายกฎหมายดู ว่าหน้าที่ฝ่ายค้าน บทบาทตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา ตรงไหนคือจุดที่เหมาะสมลงตัวและประเทศชาติประชาชนได้ผลประโยชน์” นายอนุสรณ์กล่าว
