เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 17 ก.ย.68 ที่ อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม บช.ก. บิ๊กเต่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุม“ศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา” ถึงประเด็นเกี่ยวกับคดีเงินวัดนาป่าพง จำนวน 12.2 ล้านบาท ที่ถูกโอนเข้าบัญชีของสีกาพลอย หญิงไทยในเยอรมันนี โดยล่าสุด กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ได้ส่งเรื่องให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาแล้ว และอยู่ระหว่างรอผลการตัดสินภายใน 30 วัน
พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ระบุว่า คดีนี้มีทนายความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีที่ บก.ปปป. และกองบังคับการปราบปราม โดยในส่วนของ ปปป. ได้ส่งเรื่องต่อไปยัง ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาและดำเนินการต่อแล้ว ส่วนอีกคดีที่กองปราบฯ รับเรื่องร้องเรียน ก็กำลังดำเนินการสอบสวนอยู่ คาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีความคืบหน้าเพิ่มเติม
ประเด็นหลักที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบคือ เส้นทางการเงิน ว่าเงินบริจาคจากมูลนิธิในประเทศเยอรมนี รวมถึงเงินที่เข้าบัญชีของสีกา มีเจตนาเพื่อนำไปใช้ส่วนตัวหรือเพื่อกิจการของวัดกันแน่ และจากการแถลงข่าวของวัดเมื่อวานนี้ (16 ก.ย. 68) เจ้าหน้าที่พบว่าข้อมูลบางส่วนสอดคล้องกัน แต่ก็มีบางส่วนที่ขัดแย้งกัน
‘บิ๊กเต่า’ ยังกล่าวอีกว่า มีการตรวจสอบบัญชีของมูลนิธิที่ตั้งขึ้นในประเทศเยอรมนีระหว่างปี 2556-2559 และพบการไหลเวียนของเงินจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเงินบริจาคก้อนอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเงิน 12.2 ล้านบาท ว่าถูกโอนไปที่ใดบ้าง ซึ่งหากมีการเปิดบัญชีในต่างประเทศ อาจเข้าข่ายความผิดนอกราชอาณาจักร และต้องส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดพิจารณา
ในส่วนความสัมพันธ์ของสีกาที่ประเทศเยอรมนี เบื้องต้นพบว่าสีกาคนดังกล่าวมีสามีอยู่แล้ว และความสัมพันธ์น่าจะเป็นในฐานะโยมอุปัฏฐาก โดยได้รับเงินเดือนประมาณ 120,000 บาท ขณะนี้มีผู้เกี่ยวข้องในขบวนการเกือบ 10 คน ทั้งพระสงฆ์และฆราวาส แต่ยังไม่มีใครติดต่อเข้ามาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่
