สรุปดราม่า “วัดนาป่าพง” หลัง “พระอาจารย์คึกฤทธิ์” ถูกกล่าวหายักยอก-ฟอกเงิน 12.2 ล้านบาท ด้านทีมทนาย นำหลักฐานแจงอีกมุม ยันเงินยังอยู่ครบ
จากกรณี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยถึงกระแสข่าว “พระวัดดังจังหวัดปทุมธานี” ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ขณะที่ทนายคนดัง นำข้อมูลบางส่วนออกมาโพสต์บนเฟซบุ๊กเพจ ตั้งข้อสงสัยพระรูปนี้ ยักยอกเงินวัด-ฟอกเงิน? โดยมีหลักฐานเป็นสลิปการโอนเงิน ที่ได้มาจากสีกาท่านหนึ่ง ในเยอรมัน
ทนายความคนดัง เปิดข้อมูล พระวัดดังในปทุมธานี
*ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช หรือฉายา ทนายกระดูกเหล็ก เปิดข้อมูลพระวัดดังในจังหวัดปทุมธานี ยักยอกเงินวัด ฟอกเงิน?
*หลังรับหนังสือร้องเรียนจากสีกาท่านหนึ่ง ที่อยู่ประเทศเยอรมัน ว่าพระดังรูปหนึ่งระดับเจ้าอาวาส ในจังหวัดปทุมธานี มีพฤติกรรมยักยอกเงินวัด ฟอกเงิน พร้อมส่งหลักฐานมาให้ตรวจสอบ
*มูลนิธิทนายกองทัพธรรม ได้ตรวจสอบแล้ว น่าเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง คือ มีการโอนเงินของวัดไปให้สีกาคนดังกล่าวผ่านธนาคารแห่งหนึ่ง จำนวน 4 ครั้ง รวม 12,200,000 บาท
*หลังจากนั้น สีกาคนดังกล่าวซึ่งอยู่ที่ประเทศเยอรมัน มีการโอนเงินจากธนาคารกรุงไทย ในประเทศไทย ไปยังธนาคารในประเทศเยอรมัน จำนวน 27 ครั้ง และโอนเงินในประเทศเยอรมัน อีก 2 ครั้ง เป็น 29 ครั้ง แล้วมีการโอนเงินเข้าบัญชีองค์กรของพระรูปดังกล่าวที่เปิดไว้ในประเทศเยอรมัน
*ต่อมากลุ่มพระร่วมกันบีบบังคับกดดันให้สีกาคนดังกล่าวโอนเงินจากองค์กรเข้าบัญชีส่วนตัวของพระที่เปิดในประเทศเยอรมนี
*พฤติกรรมดังกล่าวของพระดังเป็นการใช้องค์กรในประเทศเยอรมันเป็นศูนย์กลางฟอกเงินที่ยักยอกมาจากวัด จนเธอเองถูกทางการประเทศเยอรมันกล่าวหาว่าเป็นผู้ต้องสงสัยฟอกเงินร่วมกับพระดังรูปนี้
*ภายหลังสีกาคนดังกล่าวเริ่มระแคะระคาย ไม่ต้องการทำงานให้กับพระรูปดังกล่าวอีก จึงทำให้พระรูปดังโกรธจึงฟ้องร้องเธอทั้งคดีแพ่งและคดีอาญาที่ประเทศเยอรมัน
*นอกจากนี้ ยังพบพยานหลักฐานการที่พระรูปดัง ได้รับเงินบริจาคจากทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ไม่ได้นำเข้าบัญชีวัดเป็นจำนวนมาก
*อีกทั้งทราบว่า พระรูปดังยังมีความสัมพันธ์สนิทสนมกับสีกาท่านหนึ่งอย่างออกหน้าออกตา
*เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทราบว่า ได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษผู้กระทำความผิดและผู้ร่วมกระบวนการไปยัง บก.ปปป.,ปปช.,ปปง. แล้ว
วัดนาป่าพง ปทุมธานี ตั้งโต๊ะหลังคนโยงเอี่ยวดราม่า
*ทีมทนาย 4 คน เป็นตัวแทนแถลงข่าว โดย “พระอาจารย์คึกฤทธิ์” เจ้าอาวาส ไม่ได้ร่วมการแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย
*นันทน อินทนนท์ ตัวแทนทีมทนาย ผู้รับมอบอำนาจของวัดแถลงเกี่ยวกับกระแส การยักยอกเงิน การฟอกเงิน
*ประเด็นเกี่ยวกับพระอาจารย์กับสีกา อุปฐาก ในทำนองชู้สาว ซึ่งเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับพระธรรมวินัย ไม่ใช่ข้อกฎหมาย จึงอยู่นอกกรอบอำนาจของทนายความที่จะชี้แจง
*ในประเด็นพระธรรมวินัยนั้น ขณะนี้ได้เข้าสู่กระบวนการทางสงฆ์ ซึ่งพระอาจารย์ยินดีที่จะเข้าสู่กระบวนการในการชี้แจงข้อมูลเหล่านั้น
สีกาที่เป็นโยมอุปฐาก มีตัวตน ชื่อเสียง
*สีกาที่มาเป็นโยมอุปฐาก แล้วคอยปรนนิบัติพระอาจารย์ มีตัวตนชัดเจน มีฐานะ มีชื่อเสียงทางสังคม และได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในฐานะโยมอุปฐากเป็นเวลานาน
*สีกาคนนี้ เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการจัดทำคำสอนต่างๆ ของพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ผ่านสื่อโซเชียลต่างๆ โดยเฉพาะเพจ Facebook และ YouTube ที่ใช้ชื่อว่า “พุทธวัจนะเรียล”
*ข้อมูลต่างๆ วิดีโอภาพตัดต่อ ที่มีการพยายามนำมาเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ของโยมอุปฐากกับพระอาจารย์ในลักษณะที่มีการแสดงให้เห็นว่ามีความสัมพันธ์เป็นพิเศษ
*ทนายความ ในฐานะที่เป็นพุทธศาสนิกชน เชิญชวนให้เข้าไปดูข้อมูลเหล่านั้นในสื่อโซเชียล แล้วใช้วิจารณญาณในการตัดสินเองได้ว่า สิ่งนั้นถูกต้องเหมาะสม มีการประพฤติผิดพระวินัยหรือไม่
แจงปมยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน
*เมื่อปี 2561 พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ได้ริเริ่มจัดตั้งมูลนิธิพุทธวจนเยอรมนีเพื่อเป็นองค์กรการกุศลในประเทศเยอรมนี
*ตามกฎหมายแห่งประเทศเยอรมนีจะต้องมีการจัดให้มีแหล่งเงินทุนเบื้องต้น จึงมีการแต่งตั้งผู้รับมอบอำนาจรายหนึ่งในประเทศเยอรมนีเพื่อเป็นตัวแทนดำเนินการต่าง ๆ ให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งมูลนิธิข้างต้น
*การโอนเงินดังกล่าวจึงเป็นไปเพื่อจัดตั้งมูลนิธิฯโดยเฉพาะ
*แต่เดิมพระอาจารย์คึกฤทธิ์ได้เคยแต่งตั้งตัวแทนผู้รับมอบอำนาจในการดำเนินธุรกรรมทางการเงินเพื่อประโยชน์ในการจัดตั้งมูลนิธิ โดยมีอำนาจในการเบิกถอนเงินด้วย นับตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2561
*จากนั้นมีข้อพิพาทเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของตัวแทนในประเทศเยอรมนี พระอาจารย์คึกฤทธิ์ จึงได้เพิกถอนการมอบอำนาจดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม 2564
*และได้มีการฟ้องร้องบุคคลดังกล่าวเป็นคดีต่อศาลภูมิภาคเดกเกนดอร์ฟ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล
*ต่อมาได้มีการจัดตั้งมูลนิธิฯแล้วเสร็จ โดยใช้ชื่อว่า Stiftung Buddhawaiana Germany ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่ได้รับการรับรองและอนุญาตจัดตั้งโดยประธานาธิบดี รัฐบาวาเรียตอนล่าง เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562
*ปัจจุบันมีหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีเลขที่ 132/110/9000 ซึ่งได้รับจากสำนักงานสรรพากรจังหวัดลันทช์ฮูท (Landshut)
*ต่อมาได้มีการโอนเงินเข้าบัญชีมูลนิธิพุทธวจนเยอรมนี ที่ธนาคาร SozialBank ตั้งแต่มีการจัดตั้งมูลนิธิเป็นที่เรียบร้อย และเงินจำนวนดังกล่าวยังคงดำรงอยู่ในบัญชีธนาคารดังกล่าวต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
*กรณีนี้จึงไม่มีการยักยอกทรัพย์สินหรือการฟอกเงินตามที่ปรากฏเป็นข่าวแต่อย่างใด
“อาจารย์เบียร์” ยันไม่ปกป้องพระ หากทำให้พุทธศาสนาเสื่อมเสีย
*อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม เผยไม่มีความเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
*ยืนยันว่าไม่เคยคิดจะปกป้องพระที่กระทำความผิดจนทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมเสีย
*แต่ที่ออกมาพูดวันนี้ ในฐานะลูกศิษย์ ที่มีโอกาสได้รับฟังจากปากอาจารย์พระคึกฤทธิ์ เพราะก่อนหน้านี้ ทุกคนรับรู้เพียงมุมของคู่กรณีของพระอาจารย์คึกฤทธิ์เท่านั้น
*หลังฟังพระอาจารย์คึกฤทธิ์ มีบางประเด็นที่สงสัยและได้มีการซักถามไปแล้ว แต่พระอาจารย์ สามารถตอบได้ทุกประเด็นจนสิ้นสงสัย
*ขณะที่ยังไม่มีโอกาสได้คุยกับสีกาคู่กรณี
*เรื่องที่เกิดขึ้น อยากให้ทุกคนใช้วิจารณญาณและใช้ดุลยพินิจในการตัดสิน
*ไม่ว่าผลสุดท้าย พระอาจารย์คึกฤทธิ์ หรือสีกาคู่กรณี กระทำผิดจริง ก็ต้องยอมรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น
*ดังนั้นอยากให้คนที่มีพยานหลักฐานจริงๆ นำข้อมูลดังกล่าวไปให้กับพนักงานสอบสวน
ลูกศิษย์ไม่เชื่อ ยังศรัทธาพระอาจารย์คึกฤทธิ์
*ลูกศิษย์ที่มาร่วมฟังการแถลงข่าวยังไม่เชื่อในข่าวที่ออกมาก่อนหน้า
*บอกยังเชื่อมั่นพร้อมทั้งศรัทธาในตัวของพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และไม่เชื่อว่าอาจารย์จะเป็นพระเช่นนั้น
(หมายเหตุ ข้อมูลคัดลอกจากไทยรัฐออนไลน์)
ล่าสุดวันที่ 17 ก.ย.68 เฟซบุ๊กบัญชี ‘พุทธวจน ธรรมวินัยจากพุทธโอษฐ์’ ซึ่งเป็นกลุ่มสาธารณะ ที่มีสมาชิกกว่า 2.3 แสนคน โพสต์ Reels พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติม (17 ก.ย.2568) เหตุของการฟ้องร้องเพราะความไม่โปร่งใสของสีกาเยอรมัน
สามารถฟังได้ที่….
https://www.facebook.com/share/p/1BcTDh7cvR/
https://www.facebook.com/share/v/17F5wp5ugk/?mibextid=wwXIfr
