(9 ต.ค.68) เวลา 10.30 น. นายวุฒิศักดิ์ เริ่มกิจการ รองนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วย ดร.พิทยา ภิรมย์อ้น และนายกรณ์ พัฒนสิน ผู้ช่วยเลขานุการนายกเมืองพัทยา นายดำรงค์เกียรติ พินิจการ สมาชิกสภาเมืองพัทยา และนายเอกประภู เอกะสิงห์ ผู้ช่วยเลขานุการประธานสภาเมืองพัทยา ร่วมลงพื้นที่ความพร้อมของเรือนำเที่ยวในการให้บริการซีวอล์คเกอร์ในพื้นที่พัทยา-เกาะล้าน โดยมีนายพรภิรมย์ เสือแดง ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมอนามัยสิ่งแวดล้อม และนายสัญญา ทับทิมศรี หัวหน้าฝ่ายบริการรักษาความสะอาดและสิ่งปฏิกูล สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้ข้อมูล
นายวุฒิศักดิ์ รองนายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า หลังจากที่เมืองพัทยาได้มีการประชุมซักซ้อมทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ประกอบการกิจกรรมท่องเที่ยวทางน้ำแบบเดินใต้ทะเล (Sea Walker) ทั้งชายหาดพัทยาและเกาะล้าน เกี่ยวกับแนวทางดำเนินงานในการกำกับดูแล ระเบียบ ข้อบังคับ ด้านสุขลักษณะ ความสะอาด และมาตรการด้านความปลอดภัย โดยกำหนดให้ผู้ประกอบการกิจกรรมท่องเที่ยวทางน้ำแบบเดินใต้ทะเล (Sea Walker) ต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการ พร้อมมีค่าธรรมเนียมเป็นรายปี เพื่อนำเข้าระบบกำกับดูแลโดยเมืองพัทยาให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งมาตรการคุ้มครองทรัพยากรปะการังจากกิจกรรมท่องเที่ยวดำน้ำนั้น ผู้ประกอบการที่จัดกิจกรรมท่องเที่ยวดำน้ำ ต้องมีผู้ควบคุมหรือผู้ช่วยควบคุมที่ผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งกำหนด เพื่อให้การประกอบการกิจกรรมท่องเที่ยวทางน้ำแบบเดินใต้ทะเล (Sea Walker) ไม่ส่งผลกระทบต่อแนวปะการังและระบบนิเวศทางทะเล มีมาตรฐานความปลอดภัย ปฏิบัติตามข้อบังคับ ระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ไม่เอาเปรียบนักท่องเที่ยว ไม่สร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม และเกิดภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยว ในวันนี้จึงลงพื้นที่มาดูการประกอบกิจการกิจกรรมท่องเที่ยวทางน้ำแบบเดินใต้ทะเล (Sea Walker)
ของเรือลำนี้ให้เป็นตัวอย่างว่าได้ทำความพร้อมแค่ไหน อย่างไร แต่ไม่ใช่ว่าจะออกใบอนุญาตให้ทันที ถ้าผู้ประกอบการจะมาขอใบอนุญาต เมืองพัทยาก็ต้องมาตรวจความพร้อมอีกครั้ง ซึ่งเท่าที่ได้ตรวจสอบดูเป็นตัวอย่างในวันนี้พบว่ามียังมีข้อบกพร่องในเรื่องของน้ำเสียที่ยังไม่มีถังน้ำเสีย ส่วนเรื่องถังแซทส์ (ถังส้วมที่มีระบบบำบัดน้ำปฏิกูลให้กลายเป็นน้ำดีก่อนระบายลงสู่ท่อระบายน้ำสาธารณะ) ถือว่ามีปริมาณเพียงพอ และเรื่องความปลอดภัยในการให้บริการพบว่ามีการเซฟตี้ดีพอสมควร เนื่องจากการดำน้ำลงไปใช้ความลึกเพียง 3-4 เมตร และมีทีมงานพี่เลี้ยงคอยกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่น่าจะเกิดอันตรายได้ สำหรับภาพรวมในการลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมในวันนี้ถือว่าพึงพอใจพอสมควร









