วันศุกร์, ตุลาคม 10, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เปิดปฏิบัติการ “รวบแก๊งเช่าแล้วเชิด ส่งขายรถต่างประเทศ”

Related Posts

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เปิดปฏิบัติการ “รวบแก๊งเช่าแล้วเชิด ส่งขายรถต่างประเทศ”

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผบก.ทล., พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล, พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม รอง ผบก.ทล. พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.ธัช โพธิ์สุวรรณ ผกก.1 บก.ทล., พ.ต.ท.นาวิน คงสว่าง, พ.ต.ท.มีเดีย ปฐมพรวิวัฒน์ รอง.ผกก.1 บก.ทล. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.วิศวนนท์ ศรีงาม สว.ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล., พ.ต.ต.อนวัช ตันตินันทกุล สว.ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล., พ.ต.ต.ธีรพงศ์ ตาบัวตูม สว.ส.ทล.5 กก.1 บก.ทล. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง กก.1 บก.ทล.

ออกหมายจับผู้ต้องหา 5 คน จับกุมได้แล้ว 2 คน คือ
1. น.ส.อนันตาฯ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 359/2568 ลงวันที่ 21 ส.ค.68
2. นายจิรานุวัฒน์ฯ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 357/2568 ลงวันที่ 21 ส.ค.68
3. นายอรรถวุฒิฯ อายุ 57 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 356/2568 ลงวันที่ 21 ส.ค.68
4. นายนัฒวุฒิฯ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 355/2568 ลงวันที่ 21 ส.ค.68
5. นายอนุวัฒน์ฯ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 358/2568 ลงวันที่ 21 ส.ค.68
ในความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปหรือรับของโจร”

สถานที่จับกุม
– ผู้ต้องหาที่ 1 ถูกจับกุมที่ บ้านพัก ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี
– ผู้ต้องหาที่ 2 ถูกจับกุมที่ บ้านพัก ม.1 ต.หนองกุ่ม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี

พร้อมตรวจยึด
1. รถยนต์ที่ถูกโจรกรรมจำนวน 1 คัน
2. ป้ายทะเบียนรถยนต์ จำนวน 4 แผ่น
3. เอกสารสำเนาคู่มือรถ 16 ฉบับ
4. โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง
5. สมุดจดบันทึกรายรับรายจ่าย

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง กก.1 บก.ทล. ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายซึ่งเป็น ผู้ประกอบกิจการให้เช่ารถในพื้นที่ภาคอีสาน ว่าได้มีคนร้ายติดต่อมาขอเช่ารถยนต์ของผู้เสียหาย ซึ่งต่อมาผู้เสียหายทราบว่ารถยนต์ที่ถูกเช่าไปนั้น มีการขับขี่ออกนอกเส้นทางที่กำหนดไว้ โดยเมื่อผู้เสียหายพยายามติดต่อกับผู้เช่า กลับไม่สามารถติดต่อได้แต่อย่างใด ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนเองถูกคนร้ายหลอกเช่ารถและเชิดหนีไป ภายหลังผู้เสียหายจึงได้ประสานขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง กก.1 บก.ทล. ให้ช่วยติดตามรถยนต์คันดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมวิ่งอยู่บนถนนทางหลวงหมายเลข 334 กม.1 ต.บ้านอิฐ อ.เมือง จ.อ่างทอง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสกัดรถคันดังกล่าวไว้ จากนั้นจึงทำการตรวจสอบและสืบสวนขยายผลจนทราบว่าเป็นขบวนการหลอกเช่ารถส่งขายต่างประเทศ โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำ มีกลุ่มนายทุน เป็น ผู้สั่งการและจ้างงาน, มีกลุ่มม้า ทำหน้าที่รับจ้างไปเช่ารถตามร้านต่างๆ และมีกลุ่มนักบิน ทำหน้าที่ขับรถเพื่อนำไปส่งขายต่อต่างประเทศ นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ต้องหาที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายรถในตลาดมืด ทำหน้าที่เป็นคนกลาง หารถที่ได้มาโดยผิดกฎหมายจากทั่วประเทศมาส่งขายต่อให้กับนายทุน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาในขบวนการดังกล่าว และในวันที่ 9 ต.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ โดยสามารถจับกุม น.ส.อนันตาฯ (ผู้ต้องหาที่ 1) ซึ่งเป็นนายทุน ทำหน้าที่จ้างนักบินให้ไปรับ-ส่งรถ เพื่อส่งขายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ยังสามารถจับกุมนายจิรานุวัฒน์ฯ (ผู้ต้องหาที่ 2) ซึ่งทำหน้าที่เป็นม้า ทำหน้าที่รับคำสั่งเดินทางไปเอารถตามสถานที่ต่างๆ โดยภายหลังจากการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสืบสวนขยายผล และติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว

จากการสอบถามผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาที่ 1 ให้การรับว่าก่อเหตุเช่นนี้มาแล้วกว่า 6-7 ปี ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 ให้การว่าได้รับคำสั่งเดินทางไปเอารถตามสถานที่ต่างๆ ตามที่ น.ส.อนันตาฯ (ผู้ต้องหาที่ 1) สั่งการ โดยทำมามากกว่า 50 ครั้ง

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยประชาชน รวมถึงผู้ประกอบการกิจการเช่ารถ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพที่จะก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว โดยมีวิธีสังเกตและตรวจสอบดังนี้
1. ตรวจสอบอกสารประจำตัวของผู้เช่าว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่
2. ตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ของผู้เช่าว่าสามารถต่อได้หรือไม่
3. หลังที่มอบรถให้กับผู้เช่าไป หมั่นตรวจสอบสัญญาณ GPS อย่างสม่ำเสมอ
4. ถ่ายภาพผู้เช่าและเอกสารของผู้เช่าไว้เสมอ
5. หากมีพฤติการณ์เชื่อได้ว่ารถของท่านจะถูกโจรกรรม ให้รีบโทรแจ้งสายด่วน ตำรวจทางหลวง 1193 เพื่อสกัดจับได้ทันท่วงที เช่น (ถอดระบบนำทาง (GPS) ,ขาดการติดต่อ, ฯลฯ)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ต.วิศวนนท์ ศรีงาม สว.ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล. เบอร์ติดต่อ 098-153-5369

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts