วันพุธ, ตุลาคม 15, 2025
หน้าแรกท้องถิ่น”บิ๊กเต่า“ ขีดเส้นตายบุคคล ถือครองสมบัติวัดพระบาทน้ำพุ เร่งคืนทรัพย์สินภายในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ เตรียมดำเนินคดีหากยังนิ่งเฉย ล่าสุดพบคืนแล้ว 700 โฉนดจาก 800 โฉนด

Related Posts

”บิ๊กเต่า“ ขีดเส้นตายบุคคล ถือครองสมบัติวัดพระบาทน้ำพุ เร่งคืนทรัพย์สินภายในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ เตรียมดำเนินคดีหากยังนิ่งเฉย ล่าสุดพบคืนแล้ว 700 โฉนดจาก 800 โฉนด

วันที่ 15 ต.ค.68 ที่ บช.ก. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าการประชุมวางแนวทางสืบสวนสอบสวนติดตามทรัพย์สินของเครือข่ายนายอลงกต พลมุข อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากใน 24 ประเด็นที่ตั้งไว้ คงเหลืออีก 10 ประเด็นที่ต้องติดตามต่อ เพราะมีบางส่วนที่ต้องยกเลิกไป เช่น ประเด็นเรื่องชู้สาวเนื่องจากพนักงานสอบสวนได้ตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอของ เด็กที่ถูกอ้างว่าเป็นบุตรของนายอลงกตแล้วพบว่าเด็กมีผู้ปกครองชัดเจน ส่วนการยิงรถนักข่าว พบว่าขั้นตอนการหาข้อมูลเป็นไปได้ยากเนื่องจากการสืบสวนไม่ได้เก็บอะไรไว้ทำให้ต้องตัดออกไป ส่วนเรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ คือประเด็นการติดตามทรัพย์สินต่าง ๆ ของวัดซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่ดิน ขณะนี้พบมีผู้นำโฉนดที่ดินกลับมาคืนแล้ว 700 โฉนด จาก 800 โฉนด ส่วนอีก 100 โฉนดซึ่งมีเนื้อที่รวมกันประมาณ 2,000 ถึง 3000 ไร่

ส่วนตัวขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ต้องการจะยึดเป็นของตัวเองในขณะที่อดีตพระอลงกตถูกคุมขังอยู่ รีบนำมาคืนภายในวันที่ 28 ตุลาคม 2568 โดยตำรวจจะพิจารณาดำเนินคดีกับผู้ที่นำมาคืนเป็นราย ๆ ไปเพราะต้องพิจารณาเจตนา และอาจมีบางคนที่เข้าข่ายผิดข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงาน ซึ่งผู้เกี่ยวข้องที่ตำรวจอยู่ระหว่างพิจารณาเอาผิดส่วนใหญ่พบเป็นบุคคลใกล้ชิด มีจำนวนมากกว่า 10 คน โดยอาจถูกดำเนินคดีในความผิดที่เกี่ยวข้องกับข้อหาตามมาตรา 147, 157 ยักยอกทรัพย์และฟอกเงิน ซึ่งนอกจากที่ดินแล้วยังพบว่ามีทรัพย์สินอื่น ๆ เช่นเงินสด รถยนต์ และ อสังหาริมทรัพย์จำนวนมากมูลค่ารวมกันหลายพัน ล้านบาท ที่จะต้องติดตามมาคืนวัดทั้งหมดและภายในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ตำรวจจะมีการประชุมสรุปข้อมูลก่อนแถลงข่าวกับสื่อมวลชนเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงอีกครั้ง

สำหรับประเด็นของบุคคลที่มีชื่อเสียงซึ่งอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินของวัด เช่น นายสมปอง นครไธสง หรือ อดีตพระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต ซึ่งแม้ว่าจะมีการเข้าพบพนักงานสอบสวนและนำเงิน 5 แสนบาท มาฝากไว้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่า ส่วนนี้ก็ต้องตรวจสอบเจตนา เนื่องจากพบว่าช่วงเวลาที่นายสมปองเข้าไปเกี่ยวข้องกับเงินของวัดเป็นช่วงที่เจ้าตัวบวชเป็นพระอยู่ มีความรู้เรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับพระ อีกทั้งการนำเงินวัดมาให้ยืมก็อาจเข้าข่ายผิดวัตถุประสงค์ เนื่องจากเงินดังกล่าวอาจเป็นเงินที่ได้รับบริจาคมาส่วนบุคคลอื่น ๆ พบว่าได้เข้ามาชี้แจงข้อมูล แต่ก็มีบางรายที่ไม่ให้ความร่วมมือ ซึ่งขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบ เส้นทางการเงินและรายละเอียดต่างๆ เพื่อพิจารณาดำเนินคดี

ส่วนคดีของนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือ หมอบี ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่าง สรุปสำนวนเพื่อส่งให้พนักงานอัยการเนื่องจากได้แยกสำนวนกันทำ ส่วนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหากับใครเพิ่มหรือไม่นั้นขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาตามพยานหลักฐาน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts