ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปคบ. ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แถลงผลการทลายแหล่งจัดเก็บและกระจายคอนแทคเลนส์และผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมายในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ยึดของกลางจำนวนมากถึง 385,070 ชิ้น มูลค่ากว่า 17.8 ล้านบาท เตือนภัยประชาชนระวังการซื้อสินค้าราคาถูกทางออนไลน์ เสี่ยงได้รับผลิตภัณฑ์ไม่ได้มาตรฐานและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา รอง ผบช.ก. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.ต คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ปคบ. พร้อมด้วยผู้บริหารจากกระทรวงสาธารณสุข นำโดย นายวรโชติ สุคนธ์ขจร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นางสาวจิตศ์ตราฎ์ หมีทองธนกรณ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, และผู้บริหารจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นำโดย เภสัชกรหญิง สุภัทรา บุญเสริม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และ นายแพทย์ วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติการเข้าทลายแหล่งจัดเก็บและกระจายเครื่องมือแพทย์ (คอนแทคเลนส์) เถื่อน และผลิตภัณฑ์ผิดกฎหมายอื่น ๆ ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ
การทลายครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. ได้รับเรื่องร้องเรียนและประสานงานจาก อย. ให้ตรวจสอบเครื่องมือแพทย์ประเภทคอนแทคเลนส์ยี่ห้อ “Kilala” ที่มีการจำหน่ายอย่างแพร่หลายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งการผลิตไม่ได้มาตรฐานและไม่ทราบแหล่งที่มา หากนำไปใช้กับดวงตาโดยตรงอาจส่งผลให้เกิดความเสี่ยงติดเชื้อได้
ต่อมาเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ร่วมกับ อย. ได้นำหมายศาลจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นโกดังจัดเก็บและกระจายสินค้าแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ซึ่งเปิดดำเนินการในลักษณะ “เก็บ แพ็ค ส่ง” (Fulfillment) โดยมีนายทุนชาวจีนเป็นผู้สั่งสินค้าจากประเทศจีนเข้ามาจัดเก็บและรอแพ็คส่งให้กับลูกค้าชาวไทย ผลการตรวจค้นสามารถ ตรวจยึดและอายัดของกลางได้รวมทั้งสิ้น 385,070 ชิ้น มูลค่ากว่า 17,873,500 บาท
ของกลางที่ตรวจยึดได้ประกอบด้วย 1.ผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ (คอนแทคเลนส์) ที่ไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 322,500 ชิ้น มูลค่ากว่า 16.8 ล้านบาท 2.ผลิตภัณฑ์ยาที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา (เจลทาลดไข้, ยาฆ่าเชื้อสำหรับทาผิวหนัง) จำนวน 1,500 ชิ้น 3.ผลิตภัณฑ์อาหาร ที่ไม่มี อย. และไม่แสดงฉลากภาษาไทย (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป) จำนวน 10,000 ชิ้น 4.ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ที่ไม่มีเลขจดแจ้ง และไม่แสดงฉลากภาษาไทย (ยาย้อมผม, ครีมทาหน้า, สบู่) จำนวน 500 ชิ้น 5.ผลิตภัณฑ์วัตถุอันตราย ที่ไม่ได้รับอนุญาต (ผลิตภัณฑ์ล้างห้องน้ำ) จำนวน 1,000 ชิ้น 6.ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ที่ไม่มีเลขทะเบียนตำรับ (ยาทารักษาโรคสะเก็ดเงิน, ยาพ่นสำหรับรักษาอาการคัดจมูก) จำนวน 570 ชิ้น
เบื้องต้น การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องมือแพทย์, พ.ร.บ.ยา, พ.ร.บ.อาหาร, พ.ร.บ.เครื่องสำอาง, พ.ร.บ.วัตถุอันตราย และ พ.ร.บ.ผลิตภัณฑ์สมุนไพร โดยมีบทลงโทษสูงสุดถึงจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 300,000 บาท
นายวรโชติ สุคนธ์ขจร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า รัฐบาลมีนโยบายปราบปรามสินค้านำเข้าผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด กระทรวงสาธารณสุขจึงดำเนินนโยบาย “ปราบปราม โปร่งใส ปลอดภัย เพื่อสุขภาพคนไทยทุกมิติ” เพื่อคุ้มครองประชาชน และจะเร่งดำเนินการขยายผลการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง
ภญ. สุภัทรา บุญเสริม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวขอบคุณ บก.ปคบ. ในการขยายผลจนสามารถทลายโกดังผิดกฎหมายได้จำนวนมาก พร้อม เตือนไปยังโกดังทุกแห่งที่รับจ้างบริการจัดส่ง (Fulfillment) ว่าอาจมีความผิดฐานเป็นตัวการร่วมขายผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมายได้ และ อย. กับ ปคบ. จะตรวจสอบโกดังลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง
นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ฝากเตือนผู้บริโภคให้ระมัดระวังการซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพทางออนไลน์ โดยเฉพาะสินค้าที่มีราคาถูกกว่าปกติ หรือโฆษณาลดราคาจนไม่น่าเป็นไปได้ ให้ซื้อจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือ มีหลักแหล่งแน่นอน และ ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตจาก อย. เท่านั้น สามารถตรวจสอบได้ที่ฉลากผลิตภัณฑ์ หรือแจ้งเบาะแสผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัยได้ที่สายด่วน อย. 1556
พล.ต.ต คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ปคบ. เน้นย้ำว่า ประชาชนควรเลือกซื้อเครื่องมือแพทย์ โดยเฉพาะคอนแทคเลนส์ จากร้านที่เชื่อถือได้ และตรวจสอบการอนุญาตจากเว็บไซต์ อย. ก่อนซื้อ พร้อมเตือนผู้ที่ลักลอบขายให้หยุดการกระทำทันที เพราะเป็นการทำให้ประชาชนได้รับความเสี่ยงจากการใช้เครื่องมือแพทย์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หากพบการกระทำผิดสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน ปคบ. 1135 หรือเพจ ปคบ. เตือนภัยผู้บริโภค















