กรมการท่องเที่ยวเดินหน้าเอาผิด บริษัททัวร์ศูนย์เหรียญย่านร่มเกล้า และซิตติ้งไกด์ไทย หลังปล่อยให้ไกด์เถื่อนชาวจีนทำหน้าที่แทน เผยเตรียมประสาน ตม. จับกุมไกด์เถื่อนทันทีหากพบเข้าไทย หลังมีคลิปไวรัลข่มขู่และบังคับนักท่องเที่ยวจีนซื้อสินค้าแพร่กระจาย พร้อมทำหนังสือถึงสถานทูตจีนเพื่อเอาผิดบริษัททัวร์ในจีนด้วย
จากกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์ได้เผยแพร่คลิปฉาวที่ปรากฏภาพชายชาวจีนรายหนึ่งซึ่งเป็นไกด์เถื่อนต่างชาติ กำลังใช้ไมค์โวยวายนักท่องเที่ยวชาวจีนบนรถบัสอย่างรุนแรง โดยตำหนิว่าทำไมจึงไม่ซื้อสินค้าที่ร้าน และมองว่าเป็นการไม่ให้เกียรติไกด์ ทั้งยังข่มขู่นักท่องเที่ยวทั้งคันรถว่าอาจทำให้ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศจีนได้ ก่อนที่ไกด์เถื่อนรายนี้จะสังเกตเห็นว่ามีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปไว้ และบังคับให้ลบคลิปดังกล่าวทิ้ง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความรู้สึกไม่ปลอดภัยและทำให้เกิดภาพลักษณ์เชิงลบว่าประเทศไทยเป็นแหล่งอาชญากรรม ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ล่าสุด วันนี้ (20 ต.ค. 68) เจ้าหน้าที่กองทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ กรมการท่องเที่ยว ได้ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว เข้าดำเนินการตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 กับ บริษัท เฟงรุ้น ทราเวล เทรดดิ้ง จำกัด และ Mr. Zhang Bo อายุ 38 ปี ผู้นำเที่ยวของบริษัท Huiyou ซึ่งเป็นบริษัทนำเที่ยวจากประเทศจีน
เจ้าหน้าที่ได้ทำหนังสือถึงกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อแจ้งพฤติกรรมของบริษัท เฟงรุ้น ทราเวล เทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งอาจเข้าข่ายการประกอบธุรกิจในลักษณะใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (นอมินี) พร้อมทั้งแจ้งความที่ สน.ชนะสงคราม เพื่อดำเนินคดีกับ Mr. Zhang Bo ในข้อหา “ทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับอนุญาต” และได้ประสานข้อมูลไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ส่งหนังสือถึงสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เพื่อขอให้ตรวจสอบการประกอบธุรกิจนำเที่ยวของบริษัท Huiyou และขอหลักฐานจากนักท่องเที่ยวจีนอีกด้วย ในส่วนของ นายอาเย แยมือ มัคคุเทศก์ชาวไทย หรือ ซิตติ้งไกด์ นั้น เจ้าหน้าที่ได้เรียกตัวมาสอบสวนและชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่กรมการท่องเที่ยว ในเวลา 10.30 น. วันนี้ 21 ต.ค.
ทั้งนี้ หากผลการสอบสวนพบว่า นายอาเย ยินยอมให้ Mr. Zhang Bo ซึ่งไม่มีใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ ทำหน้าที่แทนตน ก็จะถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม เพื่อดำเนินคดีในข้อหา “เป็นมัคคุเทศก์ยินยอมให้บุคคลซึ่งไม่มีใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์แทนตน” ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ



