เวลา 10.30 น. วันที่ 21 ต.ค. 68 น.ส.ออย (นามสมมติ) อายุ 50 ปี ข้าราชการระดับ ผอ.ระดับ 8 ได้เข้ายื่นเรื่องขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือจาก จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ. และทีมงาน ภายหลังตกเป็นเหยื่อของ “แอปพลิเคชันสินเชื่อเถื่อน” ที่ชื่อว่า “App ทรัพย์พลัส“ 32 App จนเกือบคิดสั้นเพราะความอับอายขายหน้า
น.ส.ออย เปิดเผยว่า ตนเป็น ผอ.ในกระทรวงหนึ่ง ปัจจุบันอยู่กับคุณแม่วัย 80 ปี เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ตนถูกเพื่อนสนิทขอร้องให้ช่วยกู้เงินผ่านแอปพลิเคชันดังกล่าว ด้วยความสงสารและไว้ใจ เนื่องจากตนทำไม่เป็น เพื่อนจึงเอาโทรศัพท์ของตนไปดำเนินการให้ และนำเงินที่กู้ได้จำนวนประมาณ 180,000 บาทไป สุดท้ายเพื่อนกลับบล็อกเบอร์และหนีหายไป ทำให้ตนต้องรับภาระหนี้สินเอง
ปัญหาคือ App ทรัพย์พลัส 32 App เป็นแอปฯ เถื่อนที่ต้องชำระหนี้ทุก 7 วัน ซึ่งขณะนี้ตนได้จ่ายเงินไปแล้วรวมกว่า 300,000 บาท แต่แอปฯ ยังคงตามทวงหนี้อย่างต่อเนื่อง โดยมีบุคคลที่ใช้ภาษาไม่ชัดเจนคล้ายคนกัมพูชาโทรศัพท์มาข่มขู่คนรู้จักตนทุกเบอร์ อีกทั้งยังมีการ “ดูดข้อมูล” ในโทรศัพท์มือถือของตนไปทั้งหมด ทั้งรายชื่อ, รูปภาพ, ข้อมูลในเฟซบุ๊กและไลน์
จุดที่ทำให้ น.ส.ออย รู้สึกอับอายจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ คือการที่มิจฉาชีพได้นำข้อมูลที่ดูดไป โพสต์ประจาน ที่หน้าเฟซบุ๊กของเพื่อนหลายคน โดยใช้ถ้อยคำหยาบคาย ด่าทอตนว่า “ต่ำ” และ “เป็นกะหรี่” ทำให้ตนซึ่งไม่เคยเป็นหนี้ใครและมีตำแหน่งหน้าที่การงานดี ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างร้ายแรง
“คนที่ไม่เข้าใจ ก็มากล่าวหาว่าตนไปกู้ยืมเงินมาเปย์ผู้ชาย ซึ่งไม่เป็นเรื่องจริง สาเหตุมาจากเพื่อนตัวแสบคนดังกล่าวที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเป็นเด็กๆ มาหลอกลวง ตนอยู่กับคุณแม่วัยชราอายุกว่า 80 ปี ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสียเกี่ยวกับผู้ชาย เลยเสียใจเสียความรู้สึกมากจนเครียด“
น.ส.ออย กล่าวด้วยน้ำตาว่า ตนพลาดเพราะรักและเชื่อใจเพื่อน จึงวิงวอนขอให้ จ่าคิงส์ ช่วยประสานพามายังกองปราบปราม เพื่อให้สามารถผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้
ด้าน อาจารย์มานพ สีเหลือง นักบัญชีและกฎหมาย ได้ออกมาเตือนถึงอันตรายจาก “แอปพลิเคชันสินเชื่อเถื่อน” ว่า ปัญหาหลักคือการได้เงินไม่ตรงยอดกู้ และการถูกหลอกให้ “ให้สิทธิเข้าถึงข้อมูล” ในโทรศัพท์ ซึ่งมิจฉาชีพจะนำไปใช้ในการ ทวงหนี้ที่รุนแรง ด้วยการข่มขู่และประจาน จนเคยนำไปสู่โศกนาฏกรรมดังเช่นกรณีหนุ่มโรงงานผูกคอตายมาแล้ว
การกระทำเช่นนี้เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA), พ.ร.บ. การทวงถามหนี้ และ กฎหมายอาญาฐานหมิ่นประมาท ผู้เสียหายจึงต้องดำเนินการทางกฎหมายทันที
คำแนะนำเร่งด่วนสำหรับเหยื่อ
1.รวบรวมหลักฐาน แคปหน้าจอแอป, สลิปโอนเงิน, ข้อความข่มขู่ และหลักฐานการประจานทั้งหมด
2.ระงับการเข้าถึง ลบแอปทิ้งทันที และ ยกเลิกสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูล ในการตั้งค่าโทรศัพท์ เพื่อหยุดการล้วงข้อมูล
3.แจ้งความ ติดต่อ ตำรวจไซเบอร์ (สายด่วน 1441) หรือ เว็บไซต์แจ้งความออนไลน์ ทันที เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
4.ขอความช่วยเหลือ ติดต่อ ศูนย์ดำรงธรรม (1567) หรือ ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (1213) เพื่อขอคำปรึกษาและแก้ไขปัญหาหนี้สิน
หลังเข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ได้ตรวจสอบแอปฯ ดังกล่าวพบว่าเป็นแอปเถื่อนที่ทำมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนให้คำแนะนำว่าไม่ต้องไปจ่ายเงินตามที่ทวงมาอีก อย่าไปสนใจสิ่งที่เขาโพสต์ประจานซึ่งเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ส่วนเงินที่เสียไปแนะนำให้ติดตามหาเพื่อนคนที่มาใช้มือถือไปกู้ยืมเงินกับคืนมาได้บางส่วน

























