“ศรีสุวรรณ จรรยา” ยื่นเรื่องถึง ป.ป.ช. ขอไต่สวน “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี หลังลงนามปฏิญญาสันติภาพร่วม “ฮุน มาเนต” โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา ชี้เข้าข่ายฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 178 และอาจผิดอาญามาตรา 119–120
วันที่ 28 ตุลาคม 2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จังหวัดนนทบุรี นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กร “รักชาติ รักแผ่นดิน” เดินทางเข้ายื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวนและชี้มูลความผิดต่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กรณีลงนามใน “ปฏิญญาสันติภาพไทย–กัมพูชา” โดยเห็นว่าเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขตและอาจกระทบต่ออธิปไตยของประเทศ
นายศรีสุวรรณ ระบุว่า การลงนามดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยนายอนุทินได้ร่วมลงนามในเอกสาร “Joint Declaration by the Prime Minister of the Kingdom of Cambodia and the Prime Minister of the Kingdom of Thailand” ว่าด้วยแนวทางบริหารจัดการชายแดนไทย–กัมพูชา กับนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยมีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งได้รับการเผยแพร่ผ่านสื่อทั่วโลกแล้ว
ทั้งนี้ นายศรีสุวรรณชี้ว่า การกระทำดังกล่าวอาจขัดต่อ รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 178 ซึ่งบัญญัติไว้อย่างชัดเจนว่า การทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก หรือสัญญาอื่นที่อาจกระทบต่ออาณาเขต ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ หรือผลประโยชน์ของประเทศ ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาเสียก่อน และผู้มีอำนาจในการลงนามคือ “พระมหากษัตริย์” เท่านั้น
“การที่นายอนุทินใช้อำนาจในฐานะนายกรัฐมนตรีไปลงนามในเอกสารดังกล่าว ถือเป็นการกระทำที่สำเร็จแล้ว และอาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 และ 120 ว่าด้วยการกระทำอันเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต อีกทั้งยังอาจเป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 219” นายศรีสุวรรณกล่าว
ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ระบุเพิ่มเติมว่า ได้ยื่นคำร้องเพื่อให้ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนและชี้มูลความผิดนายกรัฐมนตรีตามขั้นตอนกฎหมาย พร้อมท้าทายว่า เรื่องนี้จะเป็นบททดสอบสำคัญของ ป.ป.ช. ว่าจะสามารถแสดงศักยภาพและอำนาจในการตรวจสอบผู้มีอำนาจสูงสุดของประเทศได้มากน้อยเพียงใด
