วันพุธ, พฤศจิกายน 12, 2025
หน้าแรกการเมืองสืบการเมือง“มาร์ค พิทบูล” เดือด ถาม “ตำรวจรู้เห็นโจร”?

Related Posts

“มาร์ค พิทบูล” เดือด ถาม “ตำรวจรู้เห็นโจร”?

“…มาร์ค พิทบูล คำรามลั่น จี้ “แม่ทัพกุ้ง” ลากคอ “ไส้ศึก” สั่งหยุดยิง สังเวยเลือดทหารชายแดนให้ “ปฏิญญาลวงโลก” ซัดรัฐบาล “อนุทิน” เจรจาเสียเปรียบ แลก “MOU” ที่มีกลิ่น “ทฤษฎีสมคบคิด” ปล้นชาติ ตอกฝาโลงด้วยการปราบ “แก๊งสแกมเมอร์” แค่ “อีเวนต์จัดฉาก” ทั้งที่รู้ว่าตัวการใหญ่คือใคร! นี่คือการวิเคราะห์สุดดุเดือดที่เชื่อมโยงความอ่อนแอชายแดน สู่รากเหง้า “ตำรวจ” ที่ถูกตั้งคำถามว่าเป็น “องค์กรอาชญากรรม” ที่แม้แต่ “บิ๊กโจ๊ก” ยังยอมรับว่า “เทา” ตบท้ายด้วยข้อเสนอสุดท้าทายศีลธรรม รับเงินโจรไม่บาป… การไม่เลือกมัน คือการทำบุญ!” …”

สังเวย “ขาที่ 7” แด่สันติภาพจอมปลอม?

การสูญเสียอวัยวะของทหารไทยรายล่าสุดจาก “ทุ่นระเบิดใหม่” บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา กำลังสั่นสะเทือนความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลอย่างรุนแรง คำถามที่ถูกยิงตรงไปยังนายกฯ อนุทิน คือ ปฏิญญาที่เพิ่งไปลงนามมานั้น มีความหมายอันใด หากทหารไทยยังต้องสังเวยชีวิตและร่างกายซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 “สืบการเมือง” สัมภาษณ์ “มาร์ค พิทบูล” ในมุมมองของ “มาร์ค พิทบูล” (ณัชพล สุพัฒนะ) การกระทำดังกล่าวไม่ต่างจากการ “หัวเราะเยาะ” อธิปไตยไทย เขาวิเคราะห์อย่างดุดันว่า หากไทยยังอ่อนแอ “เขมรก็จะซ่าตลอด” และเสนอทางออกที่เด็ดขาดว่า “ทันทีที่มีเสียงระเบิด ทหารเขมรที่อยู่บริเวณรอบนั้นจะต้องตาย” เพื่อเป็นการตอบโต้และยืนยันว่าไทย “ไม่ยอม” อีกต่อไป

ปริศนา “ไส้ศึก” กับคำสั่ง 6 ชั่วโมงมรณะ

ประเด็นที่เขย่าขวัญกองทัพมากที่สุด คือการมีอยู่ของ “ไส้ศึก” ในระดับสั่งการ ที่ “แม่ทัพกุ้ง” (แม่ทัพภาค) อ้างว่า “มีคนสั่งให้หยุดยิงใน 6 ชั่วโมงแรก” ซึ่งกลายเป็นปมปริศนาที่สังคมต้องการคำตอบ

“มาร์ค พิทบูล” ตั้งคำถามอย่างเกรี้ยวกราดว่า “แม่ทัพกุ้ง” เป็น “ไอ้ขี้ฟัน” (คนขี้ขลาด) หรือไม่ ที่ไม่กล้าเปิดเผยชื่อผู้สั่งการคนนั้น “หมาเป็นคนสั่งเหรอ?” เขากล่าวอย่างดุดัน พร้อมชี้ว่าการปกป้อง “ไส้ศึก” คือการทำลายขวัญกำลังใจทหารที่เสี่ยงตายในสนามรบ แม้ในเวลาต่อมา ทั้ง พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ (ผบ.ทบ.), พล.อ.ณัฐพล, ภูมิธรรม เวชยชัย และ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี (ผบ.สส.) จะออกมาปฏิเสธ แต่คำถามยังคงอยู่ ว่าใครคือ “เสียงลึกลับ” นั้น?

จาก “ทฤษฎีสมคบคิด” สู่ MOU พร่าอธิปไตย

ความอ่อนแอที่ชายแดน ถูกเชื่อมโยงเข้ากับผลประโยชน์มหาศาล มาร์ค พิทบูล ตั้งข้อสงสัยว่านี่คือ “ทฤษฎีสมคบคิด” (ที่เขาเรียกว่า “ทฤษฎีสมคิด”) เพื่อปล้นทรัพยากรชาติ โดยมีตัวละครอย่าง “ดาโต๊ะ อันวาร์” (ประธานอาเซียน) และ “ทรัมป์” (ที่เขากล่าวอ้างถึงผู้นำกัมพูชา) เข้ามาเกี่ยวข้อง

การเดินทางไปประชุมของนายกฯ อนุทิน ถูกตั้งคำถามถึงความจำเป็น “เรามีงานใหญ่ของพระพันปีอยู่” แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับมาคือ “MOU Rare Earth” ซึ่งถูกมองว่าไทยเสียประโยชน์เต็ม ๆ

“ที่บอกว่าเจรจาไม่เคยเสียเปรียบ” มาร์คสวนกลับ “มันเจรจาธุรกิจของบริษัทคุณ แต่นี่มันเป็นเรื่องของประเทศชาติ” เขาเปรียบเทียบกับการสร้างรัฐสภาที่ล่าช้าและงบประมาณบานปลาย ว่าคือหลักฐานที่รัฐบาลเจรจากับเอกชน “เสียเปรียบ” ตลอดมา

“จีนเทา” ลวงโลก รัฐบาลรู้อยู่แก่ใจ?

ปัญหา “แก๊งสแกมเมอร์” คืออีกหนึ่งหลักฐานที่ตอกย้ำความล้มเหลว “มาร์ค” ยืนยันว่า “หัวหน้าแก๊งสแกมเมอร์ มันอยู่ที่ประเทศไทยนี่แหละ” และอ้างว่า “จีนยืนยันมาแล้วว่ามีผู้บริหารระดับสูงของไทย” เกี่ยวข้อง พร้อมส่งรายชื่อมาให้จัดการ “แต่เราไม่จัดการ”

การที่รัฐบาลออกมาท้าให้สื่อหรือประชาชนส่งเบาะแส จึงเป็นเรื่อง “ตลกร้าย” “กูจะรู้ได้ไงว่ากูกำลังส่งรายชื่อโจรปล้นแบงก์ให้กับหัวหน้าโจรหรือเปล่า” มาร์คตั้งคำถาม และชี้ว่าการยึดทรัพย์ได้เพียง 400 ล้านบาท ถือเป็น “เรื่องตลก” เมื่อเทียบกับความเสียหายระดับ 500,000 ล้าน

รากเหง้าปัญหา: “ตำรวจ” ที่ถูกมองว่าเป็น “องค์กรอาชญากรรม”…?

มาร์ค พิทบูล ขมวดปมปัญหาทั้งหมดไปที่รากเหง้าของความอยุติธรรม โดยยิงคำถามว่า “ที่อาชญากรรมมีมากมาย เพราะองค์กรตำรวจคือองค์กรที่สกปรกโสโครกที่สุดใช่หรือไม่” และ “โจรที่น่ากลัวที่สุดคือโจรที่ถือกฎหมาย”

เขาสาธยายถึง “ระบบส่วย” ที่ฝังรากลึกในองค์กร จากการต้องรับ “เป้า” เดือนละ 1.5 ล้านบาท (เมื่อ 20 ปีก่อน) และต้องหาเพิ่มเป็น 2 ล้าน เพื่อเก็บส่วนต่างไว้ 5 แสน ระบบนี้ถูกส่งต่อเป็นพีระมิด จาก “10 เขต” สู่ “100 เขต” จนถึงยอดบนสุดที่รับเงินระดับ “พันล้าน” นี่คือที่มาของข้าราชการเกษียณที่ร่ำรวยผิดปกติ และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิด “แพะ” (ผู้บริสุทธิ์ถูกยัดข้อหา) ในกระบวนการยุติธรรม

ถ้าคุณเป็นลูกชาวนา แล้วมึงรวยตอนรับราชการ ไอ้เหี้ย นี่โกงล้านเปอร์เซ็นต์”

มาร์คยังชี้ว่า แม้กระทั่ง “บิ๊กโจ๊ก” (พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล) ที่ออกมายอมรับว่า “ผมก็สีเทา” ก็คือภาพสะท้อนว่าระบบนี้มันบีบให้ทุกคนต้อง “ชั่ว”

ทางออก? “รับเงินโจรไม่บาป” และ “โทษประหาร”

ในการต่อสู้ทางการเมือง มาร์ค พิทบูล ยืนยันว่าพรรคเศรษฐกิจ (นำโดย พล.อ.รังษี) ชูนโยบาย “ปราบโกง” ที่ชัดเจน คือ “โทษทุจริตคือประหาร” และปฏิรูปราชการ

แต่ในโลกความเป็นจริงที่การเมืองต้องใช้เงินมหาศาล (ร้อยล้าน) และ สส. ต้อง “เข้ามุ้ง” นายทุน เขากลับเสนอทางออกที่ท้าทายศีลธรรมสังคมอย่างยิ่ง โดยฝากถึงประชาชนว่า

รับเงินโจรมันไม่บาป… เงินที่ท่านได้มา มันก็คือเงินบาปอยู่แล้ว… การที่รับเงินโจรมาแล้วคุณไม่เลือกมันเนี่ย คือการทำบุญ”

คำถามสุดท้ายที่ดังก้องจึงไม่ใช่แค่ว่า “ใครคือไส้ศึก?” แต่คือระบบทั้งหมดของประเทศนี้ ตั้งแต่ชายแดน, ทำเนียบรัฐบาล, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปจนถึงคูหาเลือกตั้ง มันกำลังพังทลายลงเพราะ “คนโกง” ที่สวมเครื่องแบบและนั่งในสภาฯ อยู่ใช่หรือไม่?

#สืบข่าว รายงาน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts