“…คนไทยจำนวนมากยังคงเชื่อฝังใจว่า การตากแดดเช้าตรู่ 7-8 โมงเช้า คือเวลาที่ดีที่สุดต่อสุขภาพ แต่ความเชื่อนี้ อาจกำลังทำร้ายสุขภาพคนไทยโดยไม่รู้ตัว! “สืบสุขภาพ” เปิดประเด็นสุขภาพที่น่าตกใจ เมื่อการตากแดดของเรา อาจกลายเป็นความพยายามที่ “สูญเปล่า” และยังทำให้เราพลาดประโยชน์ลับในการ “ขยายหลอดเลือด” ซึ่งเป็นกลไกเดียวกับที่ “ไวอาก้า” ใช้! นี่คือความจริงที่คนไทยต้องรู้ ก่อนที่การขาดวิตามินดีจะกลายเป็นวิกฤติเงียบ เรื่องนี้กระทบสุขภาพคนไทยมากกว่าที่คิดหรือไม่?…”
“สืบสุขภาพ” ได้รับการยืนยันข้อเท็จจริงทางการแพทย์ที่สวนกระแสความเชื่อดั้งเดิม จาก “คุณหมอเอ๋” นาวาเอก นายแพทย์ พนิต จันทรภักดี ผู้เชี่ยวชาญที่ชี้ชัดว่า ความพยายามตากแดดเพื่อสังเคราะห์วิตามินดีในตอนเช้าตรู่ อาจเป็นความพยายามที่ “ไร้ผล”
“คุณหมอเอ๋” น.อ.นพ.พนิต วิเคราะห์ปรากฏการณ์นี้ว่า “สิ่งที่เราต้องการจากการตากแดด คือวิตามินดี ซึ่งร่างกายจะสังเคราะห์ได้เมื่อผิวหนังโดนรังสียูวีบี (UVB) เท่านั้น”
ปัญหาคืออะไร? ปัญหาคือคนไทยเลือกเวลาตากแดดผิด!
“คุณหมอเอ๋” อธิบายกลไกทางวิทยาศาสตร์ว่า “ยูวีบีเป็นคลื่นความถี่สูง แต่ในช่วงเช้า 7-8 โมงเช้า ดวงอาทิตย์ยังทำมุมลาดกับขอบโลก แสงต้องเดินทางผ่านชั้นบรรยากาศที่หนามาก ทำให้รังสียูวีบีถูกกรองออกไปเกือบหมด สิ่งที่คุณได้รับจึงมีเพียงยูวีเอ (UVA) เป็นหลัก ซึ่งไม่ช่วยในการสร้างวิตามินดี”
ข้อเท็จจริงที่ต้องตระหนักคือ รังสียูวีบี ไม่สามารถผ่านกระจก ไม่ผ่านน้ำ และแม้แต่เมฆหนาก็ยังสกัดกั้นรังสีนี้ได้
ดังนั้น “สืบสุขภาพ” ชี้ประเด็นสำคัญที่คนไทยมักเข้าใจผิด นั่นคือการนั่งรับแดดในรถ หรือริมหน้าต่างอาคาร คุณหมอเอ๋ น.อ.นพ.พนิต ยืนยันว่า “ไม่ได้ประโยชน์” เพราะยูวีบีไม่สามารถผ่านกระจกหรือฟิล์มกรองแสงเข้ามาได้ สิ่งที่รู้สึกร้อนคือ “อินฟราเรด” ไม่ใช่รังสียูวีบี
เปิด “เวลาทองคำ” ที่คนไทยต้องตากแดด
คุณหมอเอ๋ น.อ.นพ.พนิต ให้คำแนะนำที่ชัดเจนว่า “เวลาที่ดีที่สุดสำหรับประเทศไทย คือช่วง 10:00 น. ถึง 16:00 น. หรือถ้าให้ดีที่สุด คือ 11:00 น. ถึง 15:00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่แดดจัดและดวงอาทิตย์อยู่ใกล้ศีรษะมากที่สุด”
คำถามคือ ต้องตากนานแค่ไหน? คำตอบคือ “เพียง 15 นาทีก็เพียงพอแล้ว” การตากนานกว่านั้น ไม่ได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น มีแต่จะร้อนและเสี่ยงอันตรายจากความร้อนแทน
ประโยชน์ที่มากกว่าวิตามินดี: ความลับ “ไนตริกออกไซด์”
ประเด็นที่น่าสนใจยิ่งกว่า คือแสงแดด (โดยเฉพาะ UVA) ยังมีประโยชน์มหาศาลที่คนไทยไม่เคยรู้ คุณหมอเอ๋ น.อ.นพ.พนิต เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกว่า แสงแดดกระตุ้นให้ผิวหนังสร้าง “ไนตริกออกไซด์” (Nitric Oxide) ซึ่งมีฤทธิ์ทำให้หลอดเลือดขยายตัว
และนี่คือความเชื่อมโยงที่น่าทึ่งกับ “ไวอาก้า” คุณหมอเอ๋ น.อ.นพ.พนิต อธิบายกลไกนี้อย่างตรงไปตรงมาว่า “ตัวไวอากร้าเนี่ย มันไปทําให้เพิ่มไนตริกออกไซด์… มันก็เลยทําให้พี่ สู้แรง แข็งแรง ดึ๋งดั๋ง ซู่ซ่าไงครับ…” ซึ่งแสงแดดตามธรรมชาติ ก็สามารถกระตุ้นให้ร่างกายสร้างไนตริกออกไซด์ในระบบได้เช่นกัน
“ผลลัพธ์คือ ความดันโลหิตจะลดลงหลังตากแดด” โดย “คุณหมอเอ๋” ยังกล่าวอีกว่า “อาการชาปลายมือปลายเท้าในบางคนอาจหายไป เพราะเลือดไปเลี้ยงส่วนปลายได้ดีขึ้น”
นอกจากนี้ การตากแดดยังช่วยปรับสมดุลนาฬิกาชีวิต (Circadian Rhythm) กระตุ้นสารในสมอง ลดภาวะซึมเศร้า และยังมีงานวิจัยชี้ว่า สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคสโตรกซ้ำ และอาจลดความเสี่ยงอัลไซเมอร์ได้อีกด้วย นี่คือความจริงด้านสุขภาพที่น่ากังวล ประเทศไทยมี “ของดี” คือแสงแดดที่เหลือเฟือ แต่คนไทยกลับกำลังเสี่ยงต่อภาวะขาดวิตามินดี และพลาดประโยชน์มหาศาล เพียงเพราะความเข้าใจผิดเรื่อง “เวลา” ตากแดดที่สืบทอดกันมา




