วันเสาร์, พฤศจิกายน 15, 2025

ช็อก! ตากแดด 7 โมงเช้า “สูญเปล่า” หมอเอ๋ชี้ พลาด “วิตามินดี” และประโยชน์เทียบชั้น “ไวอาก้า”

“…คนไทยจำนวนมากยังคงเชื่อฝังใจว่า การตากแดดเช้าตรู่ 7-8 โมงเช้า คือเวลาที่ดีที่สุดต่อสุขภาพ แต่ความเชื่อนี้ อาจกำลังทำร้ายสุขภาพคนไทยโดยไม่รู้ตัว! “สืบสุขภาพ” เปิดประเด็นสุขภาพที่น่าตกใจ เมื่อการตากแดดของเรา อาจกลายเป็นความพยายามที่ “สูญเปล่า” และยังทำให้เราพลาดประโยชน์ลับในการ “ขยายหลอดเลือด” ซึ่งเป็นกลไกเดียวกับที่ “ไวอาก้า” ใช้! นี่คือความจริงที่คนไทยต้องรู้ ก่อนที่การขาดวิตามินดีจะกลายเป็นวิกฤติเงียบ เรื่องนี้กระทบสุขภาพคนไทยมากกว่าที่คิดหรือไม่?…”

สืบสุขภาพ” ได้รับการยืนยันข้อเท็จจริงทางการแพทย์ที่สวนกระแสความเชื่อดั้งเดิม จาก “คุณหมอเอ๋” นาวาเอก นายแพทย์ พนิต จันทรภักดี ผู้เชี่ยวชาญที่ชี้ชัดว่า ความพยายามตากแดดเพื่อสังเคราะห์วิตามินดีในตอนเช้าตรู่ อาจเป็นความพยายามที่ “ไร้ผล”

“คุณหมอเอ๋” น.อ.นพ.พนิต วิเคราะห์ปรากฏการณ์นี้ว่า “สิ่งที่เราต้องการจากการตากแดด คือวิตามินดี ซึ่งร่างกายจะสังเคราะห์ได้เมื่อผิวหนังโดนรังสียูวีบี (UVB) เท่านั้น”

ปัญหาคืออะไร? ปัญหาคือคนไทยเลือกเวลาตากแดดผิด!

“คุณหมอเอ๋” อธิบายกลไกทางวิทยาศาสตร์ว่า “ยูวีบีเป็นคลื่นความถี่สูง แต่ในช่วงเช้า 7-8 โมงเช้า ดวงอาทิตย์ยังทำมุมลาดกับขอบโลก แสงต้องเดินทางผ่านชั้นบรรยากาศที่หนามาก ทำให้รังสียูวีบีถูกกรองออกไปเกือบหมด สิ่งที่คุณได้รับจึงมีเพียงยูวีเอ (UVA) เป็นหลัก ซึ่งไม่ช่วยในการสร้างวิตามินดี”

ข้อเท็จจริงที่ต้องตระหนักคือ รังสียูวีบี ไม่สามารถผ่านกระจก ไม่ผ่านน้ำ และแม้แต่เมฆหนาก็ยังสกัดกั้นรังสีนี้ได้

ดังนั้น “สืบสุขภาพ” ชี้ประเด็นสำคัญที่คนไทยมักเข้าใจผิด นั่นคือการนั่งรับแดดในรถ หรือริมหน้าต่างอาคาร คุณหมอเอ๋ น.อ.นพ.พนิต ยืนยันว่า “ไม่ได้ประโยชน์” เพราะยูวีบีไม่สามารถผ่านกระจกหรือฟิล์มกรองแสงเข้ามาได้ สิ่งที่รู้สึกร้อนคือ “อินฟราเรด” ไม่ใช่รังสียูวีบี

เปิด “เวลาทองคำ” ที่คนไทยต้องตากแดด

คุณหมอเอ๋ น.อ.นพ.พนิต ให้คำแนะนำที่ชัดเจนว่า “เวลาที่ดีที่สุดสำหรับประเทศไทย คือช่วง 10:00 น. ถึง 16:00 น. หรือถ้าให้ดีที่สุด คือ 11:00 น. ถึง 15:00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่แดดจัดและดวงอาทิตย์อยู่ใกล้ศีรษะมากที่สุด”

คำถามคือ ต้องตากนานแค่ไหน? คำตอบคือ “เพียง 15 นาทีก็เพียงพอแล้ว” การตากนานกว่านั้น ไม่ได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น มีแต่จะร้อนและเสี่ยงอันตรายจากความร้อนแทน

ประโยชน์ที่มากกว่าวิตามินดี: ความลับ “ไนตริกออกไซด์”

ประเด็นที่น่าสนใจยิ่งกว่า คือแสงแดด (โดยเฉพาะ UVA) ยังมีประโยชน์มหาศาลที่คนไทยไม่เคยรู้ คุณหมอเอ๋ น.อ.นพ.พนิต เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกว่า แสงแดดกระตุ้นให้ผิวหนังสร้าง “ไนตริกออกไซด์” (Nitric Oxide) ซึ่งมีฤทธิ์ทำให้หลอดเลือดขยายตัว

และนี่คือความเชื่อมโยงที่น่าทึ่งกับ “ไวอาก้า” คุณหมอเอ๋ น.อ.นพ.พนิต อธิบายกลไกนี้อย่างตรงไปตรงมาว่า “ตัวไวอากร้าเนี่ย มันไปทําให้เพิ่มไนตริกออกไซด์… มันก็เลยทําให้พี่ สู้แรง แข็งแรง ดึ๋งดั๋ง ซู่ซ่าไงครับ…” ซึ่งแสงแดดตามธรรมชาติ ก็สามารถกระตุ้นให้ร่างกายสร้างไนตริกออกไซด์ในระบบได้เช่นกัน

“ผลลัพธ์คือ ความดันโลหิตจะลดลงหลังตากแดด” โดย “คุณหมอเอ๋” ยังกล่าวอีกว่า  “อาการชาปลายมือปลายเท้าในบางคนอาจหายไป เพราะเลือดไปเลี้ยงส่วนปลายได้ดีขึ้น”

นอกจากนี้ การตากแดดยังช่วยปรับสมดุลนาฬิกาชีวิต (Circadian Rhythm) กระตุ้นสารในสมอง ลดภาวะซึมเศร้า และยังมีงานวิจัยชี้ว่า สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคสโตรกซ้ำ และอาจลดความเสี่ยงอัลไซเมอร์ได้อีกด้วย นี่คือความจริงด้านสุขภาพที่น่ากังวล ประเทศไทยมี “ของดี” คือแสงแดดที่เหลือเฟือ แต่คนไทยกลับกำลังเสี่ยงต่อภาวะขาดวิตามินดี และพลาดประโยชน์มหาศาล เพียงเพราะความเข้าใจผิดเรื่อง “เวลา” ตากแดดที่สืบทอดกันมา

Get notified whenever we post something new!

spot_img

Create a website from scratch

Just drag and drop elements in a page to get started with Newspaper Theme.

Continue reading

ลั่นไก…ล้มโต๊ะ! ถอดรหัส “วีระ” ชำแหละเกมเขมร “สร้างสถานการณ์” ปมเลือดชายแดน ปฏิบัติการสกัดปักปัน หรือใบสั่ง “มือที่สาม”

https://youtu.be/SSsw8-Vg2GI “...เสียงปืนที่ชายแดน ยังไม่ดังเท่าเสียงท้าทายจาก "วีระ สมความคิด" ที่อัด "อนุทิน" ไม่จริงใจแก้ปัญหาชาติ ซัดภาพน้ำตาเป็นแค่ "ละครการเมือง" ท้าลั่น "ให้ผมเป็นนายกฯ 4 เดือน" จะล้างบางสแกมเมอร์-ทวงอธิปไตยให้ดู... ถาม “ปัญหาอยู่ที่เขมร หรืออยู่ที่ "ผู้นำไทย" ที่ไม่กล้า”?..” “สืบจากข่าว” ทำการถอดรหัสบทวิเคราะห์สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จาก “วีระ สมความคิด” หลังเกิดเหตุปะทะล่าสุดที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งทหารไทยต้องสูญเสียอวัยวะ (ขาขาด) เป็นรายที่ 7 และนำไปสู่ท่าที "ขึงขัง" ของนายกรัฐมนตรี ที่ประกาศว่า "ปฏิญญาสันติภาพ" ที่เพิ่งลงนามไปนั้น "ยุติ" แล้ว ประเด็นที่ต้องจับตาคือ เหตุการณ์นี้มี “ความคล้ายคลึง” อย่างน่าสงสัย...

“ภาษาจีน “แพร่หลายทุกทิศทาง”“ ทั้งโลกใช้กันทั่วไป “พร้อมกับ “การค้าการลงทุน”

“….ในบริบทที่ทั้งโลกเชื่อมโยงกันเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันทางด้านการรับรู้ ด้วยระบบการสื่อสารไวเท่าแสงหลากหลายช่องทางอย่างเช่นทุกวันนี้ ข่าวคราวความเจริญก้าวหน้าของจีนแพร่กระจายไปทุกทิศทาง สะท้อนถึงพลังการผลิตมหาศาลของจีนที่พวยพุ่งขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด โดยมีผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีล้ำยุคเป็นตัวนำ จากนี้ จึงไม่มีเหตุผลใดๆที่จะมายับยั้งการแพร่หลายของภาษาจีนไปทั่วโลก จะมากขึ้นและเร็วขึ้นตามการขยายตัวในมิติต่างๆของจีน ซึ่งในระดับรัฐ โครงการ"ขงจื่อเสวเวี้ยน" หรือสถาบันภาษาจีนขงจื่อได้กระจายแพร่หลายไปในหลายสิบประเทศ สามารถผลิตบุคลากรทางด้านภาษาจีนที่มีมาตรฐานในทุกทวีปนับหมื่นนับแสน และในระดับท้องถิ่น มีโรงเรียนสอนภาษาจีนเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด โดยแต่ละโรงเรียนจะได้รับแรงสนับสนุนจากชุมชนชาวจีนโพ้นทะเลอย่างแข็งขัน ที่โดดเด่นเป็นพิเศษคือการเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศมาเลเซีย ที่ได้ดำรง"ระบบนิเวศ" การสอนภาษาจีนที่เป็นของตนเองได้สมบูรณ์ที่สุด เป็นรองเพียงแผ่นดินใหญ่จีนเท่านั้น จำนวนนักเรียนที่เรียนภาษาจีนนับวันเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ โดยเฉพาะในประเทศที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับจีนมากๆ เช่นลาว เวียดนาม หรือกระทั่งประเทศไทย…” https://youtu.be/UwcZZGLHmb0 ภาษาจีน ทั้งโลกใช้กันทั่วไป 中文,全球通用 ยังครับ สิ่งที่ผู้เขียนพาดหัวนี้ ปัจจุบันยังไม่ปรากฏนะครับ แต่ก็เชื่อได้ว่า มันจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และเป็นไปอย่างรวดเร็วด้วย ด้วยแนวคิดที่ยึดเอาประวัติศาสตร์วิวัฒนาการของพลังการผลิตเป็นฐาน การบริหารปกครองเป็นองค์ประกอบ ทำให้ผู้เขียนสามารถล้วงลึกลงไปถึงแก่นแท้ของการขับเคลื่อนของกงล้อประวัติศาสตร์ แล้วสะท้อนออกมาเป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงรูปธรรมที่เราๆท่านๆเข้าใจได้ อีกนัยหนึ่ง ผู้เขียนใช้เครื่องมือชนิดหนึ่งที่เรียกกันว่าวัตถุนิยมประวัติศาสตร์จับทิศทางการขับเคลื่อนของสังคมโลก เข้าถึงกฏเกณฑ์การขับเคลื่อนของสังคมโลก โดยเฉพาะในบริบทที่ทั้งโลกเชื่อมโยงกันเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันทางด้านการรับรู้ ด้วยระบบการสื่อสารไวเท่าแสงหลากหลายช่องทางอย่างเช่นทุกวันนี้ สิ่งที่ผู้เขียนนำเสนอย่อมง่ายมากที่จะเป็นที่เข้าใจของคนทั่วไป ที่เด่นชัดที่สุดก็เรื่องจีน...

 “รบ.ล้มเหลวรอบด้าน” จ่อยุบสภาหนีตาย!

https://youtu.be/QnCW0rEojgk “..."ไพศาล พืชมงคล" มองทะลุเกม วิเคราะห์ 5 ปมร้อน ชี้เป้าสัญญาณอันตราย! ตั้งแต่ "สงครามยืดเยื้อ" ชายแดนที่กำลังสูบเลือดประเทศไทยหมื่นล้าน สู่ "แผลเน่า" ใน สตช. ที่ถูกตีตราองค์กรโจร, "วาระแห่งชาติ" ปาหี่, และ "นิรโทษป่าไม้" ที่ขัด รธน. ทั้งหมดคือเกมที่กำลังบีบให้รัฐบาลเลือก... ระหว่าง "ยุบสภา" หรือเปิดทางให้ "นายกฯ คนนอก" ที่ชื่อ "เศรษฐพุฒิ"? นี่คือการแก้ปัญหาของรัฐบาล “อนุทิน” ที่ถูกมองว่า "ลิเกโรงใหญ่" ที่มีเดิมพันสูงกว่าที่คิด?...” สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงคุกรุ่นดุจภูเขาไฟรอวันปะทุ ล่าสุดทหารไทยสูญเสียขาจากกับระเบิดไปแล้วถึง 11 ขา แต่ท่าทีของรัฐบาลกลับเป็นการประกาศ...

Enjoy exclusive access to all of our content

Get an online subscription and you can unlock any article you come across.