“…เคยไหมครับ? พอได้ยินคำว่า “มะเร็ง” ปุ๊บ ขาอ่อนปั๊บ ภาพเมรุเผาศพลอยมาทันที! ใจเย็นๆ กันก่อนครับ วันนี้ผม ‘หมอพนิต’ อยากจะมาจับเข่าคุยให้ฟังแบบภาษาบ้านๆ ว่าจริงๆ แล้วมะเร็งมันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะโชคร้าย แต่มันมีที่มาที่ไป โดยเฉพาะเรื่องใกล้ตัวอย่าง “ความเครียด” และ “การอักเสบ” ที่เรามองข้าม ถ้าเข้าใจหลักการนี้แล้ว คุณจะเลิกกลัว และหันมาดูแลตัวเองได้ถูกจุดครับ!…”
1. ต้นตอของเรื่องคือ “การอักเสบ” (Inflammation)
จำไว้นะครับ ปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้เกิดมะเร็งกว่า 60-80% มาจาก “การอักเสบ” ครับ ลองจินตนาการว่าร่างกายเราเหมือนถนน พอถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ (เกิดการอักเสบ) ร่างกายก็ต้องส่งหน่วยซ่อมแซมมาทำงานด่วน เหมือน กทม. เอายางมะตอยมาปะนั่นแหละครับ
กระบวนการซ่อมแซมนี้ต้องใช้การแบ่งเซลล์ ถ้าเราแข็งแรง มีพลังงานเพียงพอ การซ่อมก็จบสวย แต่ถ้าเราอ่อนแอ เซลล์ไม่มีแรง มันจะใช้วิธีลัด (หายใจแบบไม่ใช้ออกซิเจน) ทำให้เกิด “กรด” ขึ้นมา ซึ่งเจ้ากรดนี่แหละครับตัวแสบ เพราะภูมิคุ้มกันร่างกายเรากลัวกรด พอจะเข้าไปจัดการเซลล์ผิดปกติ เจอเกราะกรดบังอยู่ก็ถอยหนี เซลล์มะเร็งเลยได้ใจ โตเอาๆ กลายเป็นก้อนเนื้อในที่สุด
2. “ความเครียด” คือตัวปิดสวิตช์ภูมิคุ้มกัน
เชื่อไหมครับว่า จริงๆ แล้ว เราทุกคนมีเซลล์มะเร็งเกิดขึ้นในร่างกายทุกวัน วันละเป็นแสนจุด!
อ้าว… แล้วทำไมเราไม่ตาย? ก็เพราะเรามีระบบภูมิคุ้มกันคอยไล่เก็บกวาดไงครับ
แต่สิ่งที่ทำให้ระบบนี้พังคือ “ความเครียด” ครับ พอเครียดปุ๊บ ร่างกายเกิดภาวะ Oxidative Stress ภูมิคุ้มกันตกทันที กลายเป็นว่าเราเปิดประตูเมืองให้ข้าศึก (มะเร็ง) เดินเข้าบ้านสบายใจเฉิบ…!!!
ดังนั้นใครที่เครียดง่าย จิตตกบ่อยๆ ระวังไว้นะครับ การสวดมนต์หรือทำสมาธิช่วยได้จริง เพราะทำให้ใจสงบ ฮอร์โมนสมดุล ภูมิคุ้มกันก็ทำงานได้เต็มที่
3. ผู้ชายกับ “ต่อมลูกหมาก” ผู้หญิงกับ “เต้านม”
- คุณผู้ชาย: เวลาไปตรวจแล้วเจอค่า PSA (Prostate Specific Antigen) สูง อย่าเพิ่งเหี่ยวเฉาเตรียมสั่งเสีย! ค่านี้มันสูงได้จากหลายสาเหตุ แค่ต่อมลูกหมากโตธรรมดาก็สูงได้ และธรรมชาติของมะเร็งต่อมลูกหมากนั้น “โตช้ามาก” ไม่ได้ปุบปับอันตราย ให้หมอตรวจละเอียดด้วย MRI หรืออัลตราซาวด์ก่อนครับ
- คุณผู้หญิง: เรื่อง “มะเร็งเต้านม” ส่วนหนึ่งสัมพันธ์กับรอบเดือนครับ เวลาเมนส์มา เต้านมจะคัดตึง เพราะต่อมน้ำนมทำงาน แต่พอน้ำนมไม่ได้ถูกขับออก มันก็แห้งคาประตูนม นานวันเข้าสะสมกลายเป็น “หินปูน” (Calcium) คล้ายหินงอกหินย้อยข้างใน พอคมๆ ไปเสียดสีเนื้อเยื่อบ่อยๆ ก็เกิดการอักเสบเรื้อรัง จนกลายเป็นความเสี่ยงได้
สรุปง่ายๆ สไตล์หมอ:
อย่าไปมองที่ปลายเหตุ (ความตาย) ให้มองที่ต้นเหตุครับ ดูแลร่างกายอย่าให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง สวดมนต์ ฝึกทำสมาธิ ลดความเครียด พักผ่อนให้พอ กินอาหารที่มีความเป็นด่าง (ผักผลไม้) ลดน้ำอัดลมที่เป็นกรด แค่นี้เราก็ปิดประตูเสี่ยงไปได้เยอะแล้วครับ
“หลังจากได้ความรู้จากปาก “คุณหมอเอ๋” นาวาเอก นายแพทย์พนิต จันทรภักดี เล่าแล้ว… ใครที่เป็นสาย ‘เครียดลงกระเพาะ’ หรือ ‘วิตกจริต’ หาเวลาตรวจสุขภาพบ้าง? ลองแชร์วิธีคลายเครียดฉบับของตัวเองกันหน่อยครับ เผื่อจะเป็นไอเดียให้เพื่อนๆ ได้เอาไปปรับใช้สู้โรคกัน!”



